รายละเอียด : อยุธยา ประวัติศาสตร์และการเมือง

อยุธยา ประวัติศาสตร์และการเมือง

หนังสือ อยุธยา ประวัติศาสตร์และการเมือง ของ อาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ จัดพิมพ์ครั้งแรกในปี 2542 หรือเมื่อสองทศวรรษที่แล้ว และได้รับการจัดพิมพ์ซ้ำในช่วงทศวรรษ 2540 รวม 4 ครั้งด้วยกัน อันแสดงให้เห็นถึงกระแสความสนใจต่ออดีตของอยุธยาเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา อยุธยาศึกษาได้มีความก้าวหน้าไปอย่างมากทีเดียว ขณะเดียวกันก็ยังมีเรื่องราวและแง่มุมอีกเป็นจำนวนมากในอยุธยาที่ยังรอการศึกษาจากคนรุ่นใหม่ๆ ต่อไป รวมทั้งการคลีคลายปมอคติระหว่างรัฐและเชื้อชาติ ศาสนา ที่มีฐานจากการใช้ประวัติศาสตร์อยุธยามาเป็นเครื่องมือของการสร้างความเกลียดชังและความเป็นอริหรือศัตรูต่อกัน จึงเป็นสิ่งที่จำต้องแก้ไขด้วยชุดความรู้ที่แท้จริง ด้วยเหตุนี้ในวาระครบรอบ 250 ปีของการสิ้นสุดการเป็นนครหลวงของอยุธยา แต่ก็เป็นจุดเริ่มของนครหลวงแห่งใหม่ ทั้งธนบุรีและกรุงเทพฯ ในลำดับต่อมา

คำนำ : อยุธยา ประวัติศาสตร์และการเมือง

หนังสือ อยุธยา ประวัติศาสตร์และการเมือง ของ อาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ จัดพิมพ์ครั้งแรกในปี 2542 หรือเมื่อสองทศวรรษที่แล้ว และได้รับการจัดพิมพ์ซ้ำในช่วงทศวรรษ 2540 รวม 4 ครั้งด้วยกัน อันแสดงให้เห็นถึงกระแสความสนใจต่ออดีตของอยุธยาเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา อยุธยาศึกษาได้มีความก้าวหน้าไปอย่างมากทีเดียว ขณะเดียวกันก็ยังมีเรื่องราวและแง่มุมอีกเป็นจำนวนมากในอยุธยาที่ยังรอการศึกษาจากคนรุ่นใหม่ๆ ต่อไป รวมทั้งการคลีคลายปมอคติระหว่างรัฐและเชื้อชาติ ศาสนา ที่มีฐานจากการใช้ประวัติศาสตร์อยุธยามาเป็นเครื่องมือของการสร้างความเกลียดชังและความเป็นอริหรือศัตรูต่อกัน จึงเป็นสิ่งที่จำต้องแก้ไขด้วยชุดความรู้ที่แท้จริง ด้วยเหตุนี้ในวาระครบรอบ 250 ปีของการสิ้นสุดการเป็นนครหลวงของอยุธยา แต่ก็เป็นจุดเริ่มของนครหลวงแห่งใหม่ ทั้งธนบุรีและกรุงเทพฯ ในลำดับต่อมา

สารบัญ : อยุธยา ประวัติศาสตร์และการเมือง

• ภาคที่ 1 พระมหากษัตริย์และบุคคลสำคัญ
• ภาคที่ 2 เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง

 

เนื้อหาปกหลัง : อยุธยา ประวัติศาสตร์และการเมือง

ในแง่ของอดีต "ก่อนสมัยใหม่" ที่น่าจะส่งผลพวงและผลกระทบต่อสังคมไทยในปัจจุบัน "อยุธยา" น่าจะเป็นอดีตที่หากจะไม่สำคัญที่สุด ก็น่าจะเป็นอดีตที่ทรงพลังอย่างมหาศาล กาลเวลาอันยาวนานก่า 400 ปีของอยุธยา วัฒนธรรมและค่รานิยมที่ว่าด้วย "ระบบศักดินา" "ลัทธิเจ้าขุนมูลนาย" กับความสัมพันธ์ที่มีต่อ "บ่าวไพร่" ตลอดจน "ระบบอุถัมภ์" ระบบเศรษฐกิจในรูปของ "การเกณฑ์แรงงาน" หรือ "การเก็บส่วย" ดูจะเจริญเติบโต และลงรากฝังลึกในสังคมอยุธยาและส่งทอดมายังสมัยรัตนโกสินทร์อย่างน่าพิศวง อดีตของอยุธยายังคง "อยู่" กับเราและ "เล่น" กับเราเสมอมา