รายละเอียด : ปราชญ์กู้บัลลังก์ 1-3 (3 เล่มจบ)

ปราชญ์กู้บัลลังก์ 1-3 (3 เล่มจบ)

หลังจากห่างหายนิยายแปลจีนไปเสียนาน เมื่อเตรียมเสบียงพรักพร้อมแล้วกองบรรณาธิการของเราก็รีบเหนี่ยวตัวขึ้นหลังม้า! มือกุมบังเหียนมุ่งหน้าสู่จงหยวน เพื่อนำตัวคุณชายน้อยสกุลโหยวมาเป็นเครื่องบรรณาการให้กับนักอ่านที่รักทุกคนค่ะ! ครั้งนี้เป็นเรื่องราวของ "โหยวเหมี่ยว" คุณชายน้อยจากตระกูลเศรษฐีค้าใบชาในแถบเจียงหนานที่ถูกส่งไปศึกษาเล่าเรียนในเมืองหลวง โดยพาความหวังของท่านพ่อติดตัวไปด้วย ความหวังที่อยากให้โหวยเหมี่ยวสอบผ่านเป็นขุนนางจะได้ส่งเสริมเกื้อกูลการค้าของตระกูลให้ยิ่งเจริญรุ่งเรือง แต่เจ้าเด็กแซ่โหยวคนนี้คิดว่าตัวเองคือคนสำคัญเพราะเป็นทายาทหนึ่งเดียวาของบิดาผู้มั่งคั่งมาโดยตลอด จึงเอาแต่ทำตัวไม่เอาถ่าน ใช้สอยเงินทองอย่างหน้นใหญ่ใจป้ำ เที่ยวเล่นกับบรรดาคุณชายในเมืองหลวง แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อโหยวเหมี่ยวตั้งใจกลับบ้านหวังไปอ้อนขอเงินท่านพ่อ ทว่าเมื่อกลับเข้าบ้านแล้วถึงได้พบว่าตำแหน่งลูกชายคนโตของตนตกไปอยู่ในมือผู้อื่นเสียแล้ว! อีกทั้งยังมีฮูหยินคนใหม่เข้ามาแทนที่มารดาผู้ล่วงลับของโหยวเหมี่ยวอีกด้วย! ท่านพ่อทำกับเขาขนาดนี้ แน่นอนว่าโหยวเหมี่ยวไม่มีทางยอมอ่อนข้อให้เด็ดขาด แล้วถ้าหากเป็นคุณผู้อ่านล่ะคะ จะเลือกทำอย่างไรกับสถานการณ์เช่นนี้ดี จะเลือกนิ่งเฉยยอมรับการตัดสินใจของท่านพ่อแต่โดยดี หรือจะเลือกเก็บข้าวเก็บของออกจากบ้านไปใช้ชีวิตของตนอย่างอิสระ ไม่จำเป็นต้องแยแสผู้ใดอีกต่อไป?

สำนักพิมพ์เอเวอร์วาย (เล่ม 1)

คำนำ : ปราชญ์กู้บัลลังก์ 1-3 (3 เล่มจบ)

มนุษย์เรานั้นเมื่อเติบโตขึ้นความคิดก็มักจะเปลี่ยนไป คุณชายน้อย "โหยวเหมี่ยว" ของเราก็เช่นกันค่ะ จากเดิมที่เป็นเด็กน้อยรักสนุกเอาแต่เที่ยวเล่น ใช้เงินไปกับสิ่งไม่จำเป็น ก็กลับกลายเป็นโหยวเหมี่ยวคนที่เอาถ่านมีความรับผิดชอบต่อตัวเองและคนรอบข้างมากยิ่งขึ้น จนพูดได้เลยว่า "โหยวเหมี่ยว คนเดิม เพิ่มเติมคือสำนึกดี" และหลังจากที่โหยวเหมี่ยวากับทาสเฉวี่ยนหรงผู้ภักดีอย่าง "หลี่จื้อเฟิง" ช่วยกันพลิกฟื้นพื้นที่รกร้างจนกลายเป็นปราสาทเขาเจียงปัวอันงดงามในเล่มหนึ่งกันไปแล้ว เรื่องก็ดำเนินมาถึงเล่มสอง ถึงเวลาที่โหยวเหมี่ยวจะต้องพัฒนาตัวเอง เดินหน้าต่อไปด้วยฐานะบัณฑิตแล้วค่ะ เวลานี้โหยวเหนี่ยวกำลังเดินทางเข้าเมืองหลวง กลับไปยังสถานที่ที่เคยคุ้นอีกครั้งด้วยสถานะบัณฑิตสอบเป็นขุนนาง แล้วเจ้าเด็กแซ่โหยวคนนี้จะสอบผ่านหรือไม่รีบขึ้นรถม้าแล้วตามไปดูผลสอบที่เมืองหลวงกันนะคะ

สำนักพิมพ์เอเวอร์วาย (เล่ม 2 )

เนื้อหาปกหลัง : ปราชญ์กู้บัลลังก์ 1-3 (3 เล่มจบ)

บันทึกประวัติศาสตร์เล่มหนึ่งบอกเล่าความเสื่อมความเจริญอันพลิกผันของจงหยวน บทเพลงแห่งสงครามเพลงหนึ่งขับขานยาวนานกว่าสิบปี บ้านเมืองและคุณธรรมยิ่งใหญ่ ฤๅความรักที่ฝังลึกในใจล้วนแตกฉานซ่านเซ็น ตั้งแต่เกิดจนอายุสิบห้าปี ‘โหยวเหมี่ยว’ มีชีวิตร่ำรวยสุขสำราญมาโดยตลอด แต่แล้ววันหนึ่งก็พลันประสบความเปลี่ยนผันในชีวิต จากคุณชายน้อยในวันวาน วันนี้เหลือเพียงปราสาทเขารกร้างของมารดาผู้ล่วงลับ กับข้ารับใช้ชายผู้ซื่อสัตย์นามว่า ‘หลี่จื้อเฟิง’ การก่อร่างสร้างตัวด้วยสองมือเปล่าคือบททดสอบยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเขา...
เคราะห์ดีที่สวรรค์ยังเมตตา เพราะในช่วงที่ยากลำบากแสนสาหัส โหยวเหมี่ยวยังมีหลี่จื้อเฟิงอยู่ข้างกาย แต่เมื่อชนเผ่าป่าเถื่อนทางเหนือบุกเข้ารุกรานจงหยวน ไฟสงครามลุกท่วมสี่ด้าน ชาวประชายากหลีกหนี โหยวเหมี่ยวถูกจับตัวเป็นเชลย หลี่จื้อเฟิงจึงติดตามไล่ล่าศัตรูเพื่อคว้าดวงใจกลับคืนมา ขณะที่คล้ายจะปลิดปลิว โหยวเหมี่ยวคิดได้เพียงว่าจากกันวันนี้คงมิมีวันหน้าเสียแล้ว ความหวังที่จะได้ใช้ชีวิตแก่เฒ่าไปกับหลี่จื้อเฟิงสองคนเริ่มเลือนราง
ทว่า... น้ำขึ้นน้ำลงย่อมนำมาซึ่งแสงจันทร์สุกสกาวสุดแสนงามตา

รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : ปราชญ์กู้บัลลังก์ 1-3 (3 เล่มจบ)

และแล้ว..เรื่องราวระหว่าง "โหยวเหมี่ยว" กับทาสรักของเขาก็ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย ไม่มีอีกแล้วคุณชายน้อยผู้ไม่รู้ประสาในวันวาน วันนี้มีเพียงใต้เท้าโหยวเหมี่ยวที่ขุนนางในราชสำนักล้วนให้ความสำคัญ แต่ยิ่งโหยวเหมี่ยวเข้าใกล้ฐานะ "อยู่ใต้คนหนึ่งคน อยู่เหนือคนนับหมื่น" มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้มีบางสิ่งบางอย่างไม่ถูกต้อง ใช่แล้ว เป็นเพราะโหยวเหมี่ยวไม่เคยปรารถนาเกียรติยศสูงส่งใดๆ ชีวิตนี้สิ่งที่เขาต้องการมีเพียง "หลี่จื้อเฟิง" และเงินทองอีกเล็กน้อย เท่านั้น ดังนั้นโหยวเหมี่ยวจึงเฝ้าคิดหาหนทางที่จะปลีกตัวไปให้ไกลจากราชสำนักที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายไปใช้ชีวิตอยู่กับหลี่จื้อเฟิงแค่สองคน แต่เมื่อยังทวงแผ่นดินอีกครึ่งของจงหยวนคืนมาไม่ได้ เขาก็ไม่กล้าจากไปอย่างเห็นแก่ตัวเช่นกัน เช่นนี้แล้วโหยวเหมี่ยวกับหลี่จี้้อเฟิงจะจัดการกับชีวิตคู่ของพวกเขาอย่างไรต้องตามลุ้มกันต่อในหน้าถัดไปแล้วล่ะคะ

สำนักพิมพ์เอเวอร์วาย (เล่ม 3)