รายละเอียด : จินหวังเฟย เล่ม 1

จินหวังเฟย เล่ม 1

ฮูหยินจางนั่งอยู่บนเตียง นางกำลังคุยกับบุตรสาวด้วยสีหน้าและแววตาอ่อนโยน มือหนึ่งลูบศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยแพผมสีน้ำหมึกทิ้งตัวลงราวกับสายน้ำ ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มของจางหานเฟิ่งแหงนมองขึ้นมา ดวงตาหงส์คู่นั้นทำให้เว่ยเหมยลียิ้ม หากแต่ในใจนั้นเล่ากลับหนักใจ นางใกล้จะจากไป นางกลัวเหลือเกินว่าบุตรสาวจะอยู่ต่อไปอย่างไร จึงสั่งเสียเอาไว้เพื่อให้บุตรสาวดูแลตัวเองดีๆ ‘เฟิ่งเอ๋อร์ ลูกต้องรักตัวเองมากกว่าผู้อื่น’ ‘ทำไมข้าต้องรักตัวเองมากกว่าผู้อื่นด้วยท่านแม่ ข้าไม่เข้าใจที่ท่านแม่กล่าวแม้แต่น้อย’ ดวงตาหงส์คู่นั้นกะพริบปริบๆ มองไปที่มารดา
‘เพราะเจ้าจะเจ็บปวด เจ้าจะเป็นทุกข์ แม่ไม่อยากเห็นเจ้าเป็นทุกข์ เข้าใจหรือไม่’ ‘ข้าฟังแล้วก็ยังไม่เข้าใจ’
‘เจ้ายังเล็กนัก เจ้าเพิ่งจะห้าปีเอง แต่ในอนาคตเจ้าจะเข้าใจเมื่อนึกทบทวนคำพูดของแม่ เจ้าอย่าลืมอ่านหนังสือที่แม่เขียนเอาไว้ให้เจ้าเด็ดขาด อีกอย่างห้ามปล่อยให้หนังสือเหล่านั้นตกไปถึงมือของผู้ใด หรือว่า...เมื่อเจ้าจำเนื้อหาได้อย่างถ่องแท้แล้ว เจ้าจงเผามันทิ้งเสีย!’ ‘เผาหรือ? ข้าไม่อยากเผา! หนังสือเหล่านั้นเป็นท่านแม่ที่เขียนขึ้นมา มันมีค่ากับข้ามาก’ ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มของจางหานเฟิ่งส่ายไปมาอย่างไม่ยอมรับ ‘มันมีค่ากับเจ้ามากก็จริง แต่มันก็เป็นอันตรายต่อเจ้ามากเช่นกัน’ ฮูหยินจางมีแววตาเศร้าสร้อยเพิ่มขึ้นอีกห้าส่วน นางไม่อยากจากบุตรสาวไป ทว่าโรคของนางร้ายแรงนัก มิอาจรักษาได้เลย ‘อย่างไรข้าก็ยังไม่เข้าใจ ทำไมหนังสือเหล่านั้นจึงเป็นอันตรายต่อข้า มันก็แค่หนังสือ’ จางหานเฟิ่งเป็นเด็กฉลาด แต่บางทีก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่มารดาพูด ใจของนางขัดแย้งยิ่ง นั่นคือหนังสือที่มารดาเขียนขึ้นมา ‘เพราะสิ่งที่แม่เขียนขึ้นมา มันมาจากอนาคต มันจึงเป็นอันตรายสำหรับเจ้า แม่ถึงได้บอกกับเจ้าว่า...อย่าให้ผู้ใดอ่านเด็ดขาด เจ้าเข้าใจหรือไม่’ ฮูหยินจางอธิบายให้บุตรสาวเข้าใจและยอมรับพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน ‘ข้าเข้าใจ...ข้ายังจำได้ เรื่องนี้ท่านแม่ก็สั่งห้ามข้าพูดเช่นกัน ท่านแม่เคยบอกข้าว่าท่านแม่เป็นศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยเมื่อชาติที่แล้ว ท่านแม่ไม่ได้ดื่มน้ำแกงของยายเมิ่งตอนจะข้ามสะพานไน่เหอ ศาสตราจารย์คืออาจารย์ มหาวิทยาลัยคือสถานศึกษา คำพูดเหล่านี้ข้าจะไม่บอกใครเด็ดขาด!’
‘เฟิ่งเอ๋อร์ของแม่เป็นเด็กฉลาด’ ฮูหยินจางยังคงใช้มือหนึ่งลูบผมสีน้ำหมึกที่ทิ้งตัวลงราวกับสายน้ำของบุตรสาวไปอย่างช้าๆ แลดูทะนุถนอมรักใคร่ ‘ข้าเป็นเด็กฉลาด ข้าจะทำตามคำสั่งของท่านแม่’ จางหานเฟิ่งยิ้มกว้าง ในปากของนางมีฟันซี่เล็กๆ เรียงตัวกันอย่างสวยงาม

เนื้อหาปกหลัง : จินหวังเฟย เล่ม 1

หลังผ่านพิธีจีหลี่ สวรรค์เล่นตลกอะไรกับนาง! ไฉนนางจึงได้รับราชโองการจากองค์ฮ่องเต้ จู่ๆ ก็กลายมาเป็น      จินหวังเฟยได้เล่า นางเป็นแค่คุณหนูใหญ่สกุลจาง "จางหานเฟิ่ง" วันๆ มักจะอยู่แต่ในห้องหับมิค่อยจะก้าวเท้าออกจากเรือนไปไหน บิดาเป็นแค่อาลักษณ์ขั้นหก ที่วันๆ ได้แต่จดบันทึกความเป็นไปของบ้านเมือง ในเมื่อขัดราชโองการขององค์ฮ่องเต้ไม่ได้ โทษประหารทั้งตระกูลค้ำคอนางอยู่ แต่งก็แต่งสิ หลังเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน นางจะถล่มตำหนักพยัคฆ์หมอก ของ "จินอ๋อง" หรือ "จินเยี่ยหยาง" ให้ดู!

รีวิวโดยผู้เขียน : จินหวังเฟย เล่ม 1

จินหวังเฟย แปลเป็นไทยก็คือชายาเอกจินอ๋อง เรื่องนี้นางเอกวัยแค่สิบห้าแต่จะมีความซู ซูนี่หมายถึง เก่ง ฉลาด และรอบคอบ นางได้รับสิ่งเหล่านี้มาจากมารดาที่ย้อนเวลามาจากอนาคต มารดาของนางได้บันทึกทุกอย่างเอาไว้เป็น หนังสือ โดยที่หน้าปกจะเขียนเอาไว้ว่า บันทึกการเดินทางเล่มที่ 1,2,3 ฯลฯ มีเป็นร้อยเล่มค่ะ นางเอกจึงเป็นผู้ที่ชอบอ่านหนังสือมาก และมักจะอ่านหนังสือของมารดาซ้ำไปซ้ำมาตลอดหลายปี จึงมีความรู้และความคิดที่ผิดแผกไปจากสตรีในวัยเดียวกัน นิยายเรื่องนี้ได้กล่าวถึงพิณเจ็ดสายหรือกู่ฉินด้วยค่ะ ข้อมูลต่างๆ หาจากอินเทอร์เน็ต วันๆ เอาแต่นั่งฟังกู่ฉินจากยูทูบจนคนข้างๆ ถามว่าเธอฟังอะไร และเรื่องมีอยู่ช่วงหนึ่งที่นักอ่านมักจะไม่ค่อยเข้าใจ จึงขอเขียนอธิบายเอาไว้ในคำนำจากใจนักเขียนแล้วกันนะคะ ทำไมถึงเขียนตำลึงเงินและตำลึงทอง จากเหตุการณ์การประมูลพิณเฟิ่งถงนั้น ทั้งที่หลงจู๊เปิดประตูด้วยราคาตำลึงทอง แต่ผู้ที่ประมูลได้จ่ายเป็นตำลึงเงินแทน คือคิดตามหลักความจริงค่ะ ไม่ว่าจะเป็นก้อนทองหรือก้อนเงินนั้น ถ้านำจ่ายเนี่ยคงจะหนักมากใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้นจึงผันจากตำลึงทองเป็นตำลึงเงิน และจ่ายเป็นตั๋วเงินซึ่งเป็นกระดาษที่เบามาก

โม พิมพ์พลอย