รายละเอียด : โฉมสะคราญล่มเมือง เล่ม 2
โฉมสะคราญล่มเมือง เล่ม 2
"ท่านอัครเสนาบดีอาจจะไม่รู้ ฮ่องเต้ทรงเปลี่ยนชื่อตำหนักเอกในตำหนักจิ่งอี๋ว่าตำหนักอิ่นเยวี่ย และเคยมีหญิงคนหนึ่งพักอยู่ในตำหนักนี้เกือบครึ่งปี ฮ่องเต้ทรงมีท่าทีเช่นนั้นนับว่าพิเศษมาก" ซูอวี้เทียนลุกขึ้นจากที่นั่งในทันใดแล้วหมอบคุกเข่าลงบนพื้น "คนคนนี้ก็คือฮูหยินของท่านอัครเสนาบดี" ภายในห้องเงียบสนิทเพราะคำพูดนี้ แต่ยังคงได้ยินเสียงจักจั่นร้องที่นอกหน้าต่าง แต่ละเสียงราวกับแทงเข้าไปกลางหัวใจ อากาศที่เดิมร้อนอ้าว แต่ตอนที่ลอดผ่านเข้ามาในห้องหนังสือกลับแฝง ความหมายเอาไว้โหลวเช่อ เขามีสีหน้าเย็นชา นิ้วมือกุมตัวพัดแน่นจนข้อนิ้วซีดขาว "เจ้า-อยาก-ตาย-หรือ!" โหลวเช่อขบฟันพูดออกมาทีละคำ ออกแรงที่มือโดยไม่รู้ตัว พยายามสะกดไฟโทสะเอาไว้ "ท่านอัครเสนาบดี" แม้ว่าจะมาถึงก้าวนี้แล้ว เสียงของซูอวี้เทียนก็ยังคงสงบนิ่งเหมือนตอนแรกหัวที่ก้มหมอบเงยขึ้น แหงนมองโหลวเช่อ "หากเทียบความอึดและอดทน ฮ่องเต้ทรงมีมากกว่าท่านอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นเช่นต่อไป อำนาจของท่านอัครเสนาบดีต้องล่มแน่นอน ท่านอัครเสนาบดีสำหรับท่านแล้วฮูหยินเป็นกระดูกอ่อนของฮ่องเต้ ฝ่ายเราลดฝ่ายเขาเพิ่ม เป็นผลดีต่อท่านมากเลยนะขอรับ ใช้หญิงเพียงคนเดียวแลกอำนาจใต้หล้ามา มันไม่คุ้มค่าหนือ"
คำนำ : โฉมสะคราญล่มเมือง เล่ม 2
แนะนำตัวละคร
อวี๋กุยหวั่น-โหลวฮูหยิน สตรีงามล้ำเลิศหล้า สามส่วนดูสวยสง่า สามส่วนดูหมดจดงดงาม สามส่วนดูสูงศักดิ์ และอีกหนึ่งส่วนสามารถดูดวิญญาณผู้พบเห็นได้
โหลวเช่อ-อัครเสนาบดีหนุ่มผู้กุมอำนาจจากปกครองที่อายุน้อยที่สุดในราชสำนัก ใบหน้าเกลี้ยงเกลาดุจหยกเนื้อดี บุคลิกนุ่มนวลอ่อนโยนราวสายลมในฤดูใบไม้ผลิ แต่แฝงอำนาจไว้อยู่ในที
แม่ทัพหลินรุ่ยเอิน-แม่ทัพหนุ่มแห่งแคว้นผู้สง่างามเกินใคร กุมอำนาจทหารถูกขนานนามว่าเป็น "กำแพงแห่งแคว้นฉี่หลิง"
เจิ้งหลิว-ฮ่องเต้ในร้ชศกเทียนไจ่ผู้ได้รับความรักจากราษฎรมาโดยตลอดตั้งแต่ตอนเป็นองค์ชาย โดดเด่นเหนือบรรดาองค์ชายทั้งหมดอาศัยคำว่า "เมตตา"
ก่วนซิวเหวิน-จ้วงหยวนคนใหม่ เดิมเข้าวังมาพร้อมกับคณะละครคุณหยวน ก่อนจะได้ติดตามกุยหวั่นกลับมาที่จวนอัครเสนาบดี เป็นลูกศิษย์ของโหลวเช่อและได้เป็นจ้วงหยวนในที่สุด
เนื้อหาปกหลัง : โฉมสะคราญล่มเมือง เล่ม 2
ความงามที่มิมีผู้ใดละสายตาได้สร้างความร้าวฉานให้ยิ่งลงลึก การแต่งงานที่นางมิได้เลือกและมิอาจปฏิเสธยามนี้กลับสร้างความรักให้เกิดในใจนาง ทว่าบุรุษที่นางรักยิ่งเหนือสิ่งใดกลับทอดทิ้งนางไปในช่วงเวลาสำคัญ ยามนี้ผู้ที่ยืนอยู่รายล้อมล้วนไม่รู้ว่าใครจริงใจต่อนาง ใครบ้างที่นางจะเชื่อใจและวางใจได้ ในเวลาคับขันเช่นนี้กลับมีมือหนึ่งยื่นมาช่วยประคองนางไว้ ที่พึ่งในยามยากของนางกลับเป็นชายอื่น ความรักจากผู้ใดคือสิ่งที่ใจนางปรารถนาอย่างแท้จริง สงครามที่กำลังปะทุนั้นเล่า ผู้ใดกันจะอาจหาญไปยุติมันได้ ความรักจะเป็นแรงเกี่ยวรั้งสุดท้ายให้สงความสลายไปได้อย่างไรกัน!
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : โฉมสะคราญล่มเมือง เล่ม 2
เรื่องราวในยุคสมัยที่หญิงงามปานล่มเมืองถือกำเนิดขึ้นสองคนดำเนินมาถึงกลางเรื่อง ซึ่งเป็นช่วงที่เราได้เห็นความรักและความเอาใจใส่ที่บุรุษหลายคนมีต่อนางรวมไปถึงการต่อสู้แก่งแย่งอำนาจของเหล่าบุรุษที่ค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยในส่วนของเล่มจบ "โฉมสะคราญล่มเมือง" นี้บอกได้คำเดียวเลยค่ะว่า ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะยิ่งเข้มข้นและซาบซึ้งประทับใจกว่าในเล่มแรกอย่างมาก "อวี๋กุยหวั่น" ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองของ "โหลวเช่อ" ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามผลักไสนางให้หลบเลี่ยงไปมากเพียงใดแต่ก็ไร้ผล ด้วยความรักใคร่ที่นางมีต่อเขา นางมิอาจทิ้งเขาไว้ท่ามกลางการต่อสู้ครั้งนี้ได้ เช่นเดียวกันกับที่ "หลินรุ่ยเอิน" ก็ไม่อาจละทิ้งหรือไม่ช่วยเหลือนางได้เลย บุรุษมากมายเข้ามาชิดใกล้แต่นางยังคงมีหัวใจเพียงหนึ่งเดียว..หัวใจที่มอบให้เพียงเขาผู้นั้น ทว่าเขากลับทอดทิ้งนางไป กุยหวั่นจะทำอย่างไรต่อไป ย่างก้าวที่สำคัญในกระดานหมากแห่งการแก่งแย่งอำนาจและหัวใจของสตรีนี้ใครจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ และความงามจะเป็นเหตุให้ล่มเมืองหรือเกิดกลียุคได้จริงหรือไม่ อย่ารีรอที่จะพลิกกระดาษหน้าต่อไป และสัมผัสกับเรื่องราวที่แสนเข้มข้นและน่าติดตามนี้ไปพร้อมกัน
สำนักพิมพ์แจ่มใส