รายละเอียด : ประวัติศาสตร์การทูตยุโรปตั้งแต่สมัยราชาธิปไตยจนถึงปัจจุบัน : พัฒนาการด้านการทูต

ประวัติศาสตร์การทูตยุโรปตั้งแต่สมัยราชาธิปไตยจนถึงปัจจุบัน : พัฒนาการด้านการทูต

"ตราบเท่าที่ความขัดแย้งกันและความร่วมมือร่วมใจกันยังเป็นส่วนหนึ่งในธรรมชาติของมนุษย์ การเจรจากันซึ่งหมายถึงการทูตเพื่อลดหรือขจัดความขัดแย้งและเพื่อยังให้เกิดความร่วมมือระหว่างรัฐก็ยังต้องดำรงอยู่ต่อไป ดังนั้นการทูตไม่ว่าจะยุคใดสมัยใดย่อมกอปรไปด้วยเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ดังกล่าวคล้ายคลึงกัน หากแต่ลักษณะและวิธีการดำเนินการทางการทูตย่อมแตกต่างกันตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป อันเนื่องมาจากแนวคิดในเรื่องระบอบการปกครองที่พึงปรารถนาในช่วงเวลานั้น ๆ ย่อมส่งผลอย่างยิ่งต่อพัฒนาการด้านการทูตไปด้วย ในระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจทั้งปวงเป็นขององค์อธิปปัตย์นั้น กิจกรรมทางการทูตย่อมรวมศูนย์อยู่ที่พระองค์เท่านั้นและนักการทูตต้องมีจิตสำนึกในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชดำริทุกประการ เมื่ออำนาจในการปกครองกระจายไปสู่อัครมหาเสนาบดีและบรรดารัฐมนตรีทั้งหลายการทูตจึงได้รับการพัฒนาไปสู่การทูตแผนเก่าที่มีการแบ่งอำนาจกันระหว่างองค์อธิปัตย์และผู้นำฝ่ายบริหารที่ต่างก็มีการดำเนินการทางการทูตที่ผสมผสานกลมกลืนกันเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม การทูตก็ยังคงไว้ซึ่งหลักการและเหตุผลเดิมเฉกเช่นที่เคยเป็นมาตลอดเวลาหลายพันปีและน่าจะยังดำรงอยู่คู่กับมวลมนุษยชาติตลอดไป"

สารบัญ : ประวัติศาสตร์การทูตยุโรปตั้งแต่สมัยราชาธิปไตยจนถึงปัจจุบัน : พัฒนาการด้านการทูต

• บทนำ
• บทที่ 1 การทูตสมัยราชาธิปไตยและสมบูรณาญาสิทธิราชย์
• กำเนิดการทูตสมัยราชาธิปไตย
• ลำดับชั้นความสำคัญในเรื่องการทูต
• บทที่ 2 การทูตแผนเก่า
• พัฒนาการของระบบการทูตโดยการประชุมในยามสันติ
• ระบบราชการและนักการทูต
• บทที่ 3 การทูตแผนใหม่
• การทูตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 11
• บทที่ 4 การทูตในยุคปัจจุบัน หรือการทูตแบบเบ็ดเสร็จ
• การทูตในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

 

เนื้อหาปกหลัง : ประวัติศาสตร์การทูตยุโรปตั้งแต่สมัยราชาธิปไตยจนถึงปัจจุบัน : พัฒนาการด้านการทูต

"...ทูตนั้นควรจะต้องจดจำไว้เสมอว่าเขาเป็นผู้แทนขององค์อธิปปัตย์ของเขา เมื่อเกิดมีปัญหาอันเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของเขา และเขาจะต้องหนักแน่นมั่นคงในการใช้สิทธิและเอกสิทธิ์ต่าง ๆ ที่เป็นของตำแหน่งนั้น แต่นอกเหนือจากนั้นแล้วเขาก็ควรจะลืม ๆ ยศถาบรรดาศักดิ์ของเขาเสียบ้าง เพื่อที่เขาจะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสำราญใจในท่ามกลางญาติมิตรเพื่อนฝูงของเขา เขาน่าจะเป็นสามัญชนและมีปฏิสันถารได้กับทุก ๆ คน ถ้าหากว่าเขาปฏิบัติตนเป็นอื่นนอกเหนือไปจากนี้ ดังเช่นเสแสร้งว่าเป็นนายทหารองครักษ์พิทักษ์กษัตริย์อยู่ตลอดเวลา เขาก็ไม่เหมาะกับตำแหน่งหน้าที่นี้..." ฟรองซัวส์ เดอ กัลลิแอร์ส

"...ทูตถาวรไม่มีทางเลือกอื่นใดเลยนอกจากจะต้องโกหกและหลอกลวง..." เคานท์แห่งกอนโดมาร์