รายละเอียด : เดเมียน : DEMIAN

เดเมียน : DEMIAN

เดเมียน ผลงานนวนิยายลำดับที่ห้า ของเฮอร์มานน์ เฮสเส ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ๑๙๑๙ ผลผลิตของงานชิ้นนี้ สั่งสมจากผลกระทบของความขัดแย้งภายนอกในสังคม กับความขัดแย้งภายในจิตใจ นั่นคือเฮสเสต้องเผชิญทั้งปัญหาชีวิต เริ่มจากบิดาเสียชีวิต บุตรชายคนโตป่วยหนักปางตาย และวิกฤติชีวิตคู่กับปัญหาความไม่เห็นด้วยกับลัทธิการทําสงครามที่กําลังครอบคลุมยุโรปอยู่ในขณะนั้น เขาแสดงออกโดยการเขียนบทความคัดค้านเพื่อรณรงค์ให้เกิดสันติภาพ การกระทําของเขาเช่นนี้ไม่ส่งผลดีแก่เขาในระยะแรก เพราะเขาต้องสูญเสียผู้อ่านไปมาก หลายคนเลิกอ่านงานของเขา นั่นจึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่เมื่อตีพิมพ์เดเมียนครั้งแรก ต้องใช้ชื่อผู้ประพันธ์ "เอมิล ซินแคลร์" ซึ่งเป็นตัวละครที่ดําเนินเรื่อง จนเมื่อตีพิมพ์ถึงครั้งที่ ๑๐ จึงได้เปิดเผยชื่อเฮอร์มานน์ เฮสเส ผู้ประพันธ์

ผลจากการที่เฮสเสต้องประสบปัญหาชีวิตทั้งภายนอกและภายในนี้เอง ทําให้เขาต้องรับการรักษาอาการทางประสาทกับจิตแพทย์ โดยใช้ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ในการบําบัด ซึ่งเป็นทฤษฎีที่ว่าด้วยการทําความเข้าใจการทํางานของสมอง จิตใจและพฤติกรรมของมนุษย์ ซึ่งในขณะนั้น จิตวิทยานับเป็นวิชาที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ ๑๙ ด้วยเหตุนี้จึงอาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เฮสเสไม่เปิดเผยว่าตนเป็นผู้ประพันธ์ เดเมียน ในครั้งแรกก็เพราะนวนิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาสาระที่แปลกแตกต่างจากนวนิยายทั่วไป อีกทั้งแตกต่างจากที่เฮสเสเคยเขียนมาด้วย เช่น การกล่าวถึงจิตใต้สํานึก การตีความความฝัน และการสื่อสารกับผู้อื่นด้วยอํานาจจิต เป็นต้น

สำนักพิมพ์เคล็ดไทย

สารบัญ : เดเมียน : DEMIAN

• บันทึกการอ่าน
• พันธะหน้าที่ในการทำงานแปล "สดใส" : "ลูกสาวเฮสเส"
• เฮอร์มานน์ เฮสเส
• ความนำ
• สองโลกสองอาณาจักร
• เคน
• ผู้ร้าย
• เบียทรีส
• นกดิ้นรนพ้นเปลือกไข่
• ฯลฯ

เนื้อหาปกหลัง : เดเมียน : DEMIAN

"นี่คือการพยากรณ์ถึงอนาคต เป็นความละเอียดอ่อนที่มีต่ออนาคต ผมไม่รู้จะพรรณนาถึงเสน่ห์พิเศษที่ตีความไปได้หลายนัย มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อย่างที่ผมรู้สึกได้อย่างไร นวนิยายเรื่องนี้มีทั้งลักษณะโรแมนติก ความตรงไปตรงมา ความซับซ้อน ตลอดจนอารมณ์ขันอันหม่นหมองของวิญญาณเยอรมัน

อิทธิพลที่ เดเมียน ส่งผลราวสายฟ้าฟาด ต่อคนรุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เป็นสิ่งที่ไม่อาจลืมเลือน ผลงานที่มีลีลากวีแน่ชัดจากปลายปากกาของซินแคลร์ นักเขียนที่ไม่มีใครรู้จัก ได้กระตุกประสาทของคนในยุคนั้น คนหนุ่มสาวต่างปลาบปลื้มตื่นเต้น" โทมัส มานน์ นักเขียนรางวัลโนเบล ปี ค.ศ. 1929