รายละเอียด : ไม่เป็นไรนะ แม้มันจะเป็นไร
ไม่เป็นไรนะ แม้มันจะเป็นไร
เวลาเรียน ทำงาน หรือใช้ชีวิตมันจะมีบางครั้งที่ชีวิตไปได้สวย เป็นไปตามที่เราคาดหวัง แต่ก็มีหลายครั้งที่ชีวิตไม่เป็นไปตามที่เราคิด ทั้งๆ ที่เราคิดว่ามันจะออกมาดีและไปได้สวยแล้วแท้ๆ แต่นั่นแหละสิ่งที่เรียกว่าชีวิต
เวลาโชคดี มีความสุข มันไม่ยาก เพราะเรารู้ว่าจะรับมือกับมันอย่างไร แต่เวลาพบเจอความผิดหวังต่างหาก ที่เราไม่รู้ว่าจะรับมือกับมันอย่างไร แต่สิ่งที่เราพอรู้ก็คือ เวลาเจอเรื่องไม่คาดคิดและไม่เป็นดั่งใจ ไม่จำเป็นเสมอไปที่เราจะต้องรู้สึกตามสถานการณ์ภายนอกนั้น แม้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นทุกข์ แต่เราไม่จำเป็นต้องทุกข์ก็ได้
เคล็ดลับสำคัญข้อหนึ่งก็คือ อย่าถามตัวเองว่า "ทำไมเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นกับฉัน" แต่ให้ถามว่า "ฉันจะทำอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้" เพราะ "ทำไม" โฟกัสที่ปัญหา ใส่ใจอดีตที่เกิดไปแล้ว ส่วน "ทำอย่างไร" โฟกัสที่การแก้ปัญหา และใส่ใจปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้น อย่าถามว่า "ทำไม" แต่ให้ถามว่า "ทำอย่างไร"
springbooks
สารบัญ : ไม่เป็นไรนะ แม้มันจะเป็นไร
- ความสุขของน้ำเต้าหู้
- ส่วนประกอบของทะเล
- เอเวอเรสต์ส่วนบุคคล
- ความเร็วหลุดพ้น
- วันแรดโลก
- กำลังใจที่เดินได้
- กำไรในความทุกข์
- จุดสิ้นสุดของเวลาที่เปล่าประโยชน์
- ความอดทนผลมันหวาน
- อดทนให้ถูกต้อง
- ไว้ไปที่นี่กัน
- ชัยชนะเล็กๆ น้อยๆ
เนื้อหาปกหลัง : ไม่เป็นไรนะ แม้มันจะเป็นไร
ชีวิต มีบทเรียนให้เราเสมอ และหนึ่งในบทเรียนอันล้ำค่านั้น คือการที่มันบอกกับเราว่า ไม่ว่าจะเจออะไร จะยากหรือง่าย สุดท้ายเราจะผ่านมันไปได้เสมอ
รีวิวโดยผู้เขียน : ไม่เป็นไรนะ แม้มันจะเป็นไร
รู้ไหมครับว่าข้อดีอย่างหนึ่งของการมีอายุที่มากขึ้นก็คือ การที่เราจะได้สนิทสนมกับความผิดพลาดและผิดหวังได้มากขึ้นครับ ย้อนไปสมัยเรายังเด็กๆ ตอนที่ความผิดหวังยังเป็นแค่เรื่องเหล่านี้ ไม่ได้ดูการ์ตูนก่อนนอน โดนบังคับให้กินผัก กล่องดินสอเรามีสองชั้นแต่เพื่อนดันมีสาม เล่นกีฬาสีแล้วเป็นตัวสำรอง วันเด็กแล้วพ่อติดงาน ไม่ว่างพาไปขึ้นเครื่องบิน คือสมัยนั้นความผิดหวังหรือผิดพลาดในชีวิตมันเป็นแค่เรื่องทั่วๆ ไปเท่านั้นเอง มันไม่ได้มีผลกระทบต่อวิถีชีวิต แนวคิดอะไรเราสักเท่าไหร่ วันเดียวก็หาย สามวันก็ลืม อาทิตย์หนึ่งก็มีเรื่องใหม่ๆ แล้ว จนเราโตขึ้นมาอยู่ในวัยที่ต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองกันมากขึ้น เราก็พบว่ามีเรื่องใหม่ๆ เรื่องใหญ่ๆ ที่รอเราอยู่อีกหลายอย่าง ยิ่งเราโตขึ้น เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับสิ่งที่โตตามตัวเราไปด้วยเช่นกัน
แรกๆ เราก็ไม่ชินหรอกกับการถูกปฏิเสธ ถูกนินทา ถูกดูถูก ถูกทำร้าย ทำให้เสียกำลังใจ บางจังหวะของชีวิตเราคิดว่าคงไม่ไหว มันมากเกินไปแล้ว จะผ่านไปได้ยังไง มันไม่ไหวนะ และบ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินคำให้กำลังใจจากคนข้างๆ ว่า ไม่เป็นไรนะเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป แต่ ณ ตอนนั้นในใจเราก็มักจะมีเสียงหนึ่งค้านขึ้นมาอยู่เสมอว่า "ไหนใครบอกว่าไม่เป็นไร แต่มันเป็นนะบางทีมันเป็นมากด้วย"
แต่เชื่อผมไหมครับว่า เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อคุณค่อยๆ เติบโตขึ้น คุณจะเริ่มสนิทกับความผิดหวังมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเจอกันบ่อยๆ เดี๋ยวก็มาเดี๋ยวก็ไป สนิทจนกระทั่งคุณเริ่มจะรู้จักนิสัยของมันว่า ถ้าเจอกันครั้งแรกๆ มันจะดูแรงๆ หน่อย ท่าทางขึงขังจริงจัง ทำเหมือนจะเล่นงานเราให้ตายซะให้ได้ แต่เดี๋ยวสักพักก็จะเริ่มผ่อนแรงลง เริ่มเบามือ เลิกรา แล้วก็หายหน้าไปในวันหนึ่ง อืม ที่เคยคิดว่ามันเป็นไรนะ ก็เริ่มรู้แล้วว่า สุดท้ายมันจะไม่เป็นไรจริงๆ
มันมีอารมณ์ที่แตกต่างกันอยู่ระหว่างสองประโยคนี้ คือ "มันเป็นไรเสมอเวลาที่บอกว่าไม่เป็นไร" กับ "ไม่เป็นไรนะ แม้มันจะเป็นไร" ลองอ่านทวนดูหลายๆ ครั้งคุณจะพบว่า ประโยคแรกมันให้ความรู้สึกของการมองเห็นปัญหาก่อนเสมอ โฟกัสที่เรื่องทุกข์ใจแต่ประโยคหลังมันบอกคุณได้ว่า ชีวิตมีความหวังเสมอ มันเข้มแข็งพอที่จะผ่านไปได้ทุกเรื่องจริงๆ ชีวิตมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ครับ
บอร์นเก้าสาม