รายละเอียด : บ้านและสวน

เตรียมตัวทำสวนดาดฟ้า
หากต้องการจัดสวนดาดฟ้า อันดับแรกควรตรวจสอบสภาพอาคารว่ามีความแข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักหรือไม่ โดยปกติแล้วอาคารที่อยู่อาศัยหรือตึกแถวที่มีดาดฟ้าส่วนใหญ่วิศวกรจะออกแบบไว้ให้รับน้ำหนักได้ 300 กิโลกรัมต่อตารางเมตร จึงไม่ควรต่อเติมโครงสร้างที่มีน้ำหนักมาก อาจหลีกเลี่ยงโดยจัดสวนกระถางที่เน้นใช้ไม้พุ่ม ไม้คลุมดิน และวัสดุปลูกน้ำหนักเบาแทน แต่หากต้องการทำโครงสร้างกระบะต้นไม้ หรือใช้ต้นไม้ขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ควรทำโครงสร้างเผื่อการรับน้ำหนักไว้ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างโดยปรึกษาวิศวกร
(จากคอลัมน์สวนสวย “Modern Roof Garden : สวย เรียบ บนดาดฟ้า”)

ต้นไม้ที่เหมาะกับสวนดาดฟ้า
ควรเป็นไม้ใบเล็ก ไม้ที่เก็บน้ำไว้ในใบได้ดี ใบค่อนข้างแข็ง หนา ลักษณะคล้ายเคลือบด้วยขี้ผึ้งหรือกำมะหยี่ และต้องเป็นไม้ประดับที่ปรับตัวอยู่ได้ในแสงไม่จัดจนถึงตลอดวัน
(จากคอลัมน์ไม้ในสวน)

เปิดประตูทำไมมีรอย
ประตูภายในมักไม่นิยมทำวงกบล่าง เพราะอาจสะดุด หรือเดินเตะได้ ดังนั้นส่วนพื้นตรงขอบประตูจึงมักเป็นจุดรอยต่อของพื้นห้องที่ใช้วัสดุต่างกัน การเปลี่ยนวัสดุปูพื้นที่มีความหนาต่างกัน แต่ไม่ได้ไสด้านล่างบานประตูออกให้ได้ระดับ อาจทำให้มีปัญหาในการเปิด-ปิด และทำให้เกิดรอยขีดข่วนที่พื้นได้ นอกจากนี้การติดตั้งบานพับที่ไม่ได้มาตรฐาน รับน้ำหนักประตูไม่ดี อาจทำให้ประตูตกจนเปิด-ปิดลำบาก จนพื้นเกิดเป็นรอยได้เช่นกัน สำหรับประตูที่มีน้ำหนักมากควรเสริมความแข็งแรงด้วยบานพับตัวบน 2 ตัว
(จากคอลัมน์สถาปัตยกรรม)

เมื่อจะซื้อปลั๊กพ่วงต้องดู...
ไม่ว่าจะซื้อปลั๊กพ่วงที่ไหนในบ้านเราให้ดูว่ามีเครื่องหมาย มอก.หรือ TIS รับรองบนผลิตภัณฑ์หรือไม่ ถ้ามีก็มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้ระดับหนึ่ง แต่ มอก.11-2531 ที่เห็นบนปลั๊กพ่วงส่วนใหญ่นั้นจะเป็นของส่วนสายไฟฟ้า มอก.166-2549 ต่างหากที่จะเป็นตัวบอกได้ว่าผลิตภัณฑ์เต้าเสียบและเต้ารับชนิดนั้นได้ผ่านการรับรองมาตรฐานมาแล้ว
(จากคอลัมน์ช่างสรร)

นั่งเล่นที่หน้าบ้าน
ระเบียงหน้าบ้านใครที่ได้อารมณ์ไทยๆแบบนี้อย่ามองข้ามเชียว นอกจากใช้เป็นพื้นที่ต้อนรับแขกก่อนเข้าสู่ตัวบ้านแล้ว ยังเหมาะจะเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนเล็กๆได้ด้วย
(จากคอลัมน์ดีไซน์ไอเดีย)