รายละเอียด : ปิดแผ่นฟ้าทุบปฐพี เล่ม 2
ปิดแผ่นฟ้าทุบปฐพี เล่ม 2
หญิงสาวผู้สูญเสียความทรงจำ ถูกชายคนรักทอดทิ้งแต่เมื่อทั้งคู่มาพบกันอีกครั้ง เขากลายเป็นซื่อจื่อแห่งจวนโหว ส่วนนางคือองค์หญิงผู้ตรวจการแผ่นดินที่หายตัวไปหนึ่งปี และมีสามีแล้ว!?!
ขณะที่ความทรงจำค่อยๆ ฟื้นคืนมานางต้องรับมือกับการห้ำหั่นชิงอำนาจในราชสำนัก ด้านหนึ่งต้องเผชิญกับราชบุตรเขยสามีผู้ทั้งรักทั้งชังนาง ส่วนอีกด้านก็ต้องเผชิญกับซื่อจื่อ อดีตคนรักผู้เย็นชาที่ทำเหมือนไม่รู้จักนาง บุรุษทั้งสองคล้ายมีบางสิ่งปิดบังอำพรางนางอยู่ และดูเหมือนต่างพัวพันกับขั้วอำนาจลึกลับ มิตรหรือศัตรู รักแท้หรือหลอกใช้ ล้วนยากแยกแยะ
นางพยายามสืบค้นเงื่อนงำการสูญเสียความทางจำในอดีต แต่ยิ่งสืบกลับยิ่งสับสน คนที่วางยาพิษนางอาจเป็นน้องชายผู้เป็นไท่จื่อที่ดูไร้พิษภัย หรือราชบุตรเขยผู้เป็นสามีของนางเอง ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไรล้วนทำให้เจ็บปวด ทั้งดูจะมีการสมคบคิดและการทรยศหักหลังอันสะท้านสะเทือน ราชบุตรเขย ซื่อจื่อ พี่ชายใหญ่ ไท่จื่อ ใครคือสายเลือดแห่งราชวงศ์ที่แท้จริง ใครคือทายาทแห่งราชวงศ์ก่อนใครจริงใจ และใครที่มีลับลวงพราง สุดท้ายด้วยศักดิ์ฐานะแห่งองค์หญิงผู้ตรวจการแผ่นดิน นางต้องทุ่มสุดกำลังเพื่อรักษาความสงบแห่งแว่นแคว้นแต่ความรักเล่า จะรักษาไว้ได้หรือไม่
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : ปิดแผ่นฟ้าทุบปฐพี เล่ม 2
ปิดแผ่นฟ้า ทุบปฐพี แค่ชื่อเรื่องก็ได้กลิ่นอายที่แปลกไปจากเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมาของอรุณแล้ว เป็นนิยายย้อนยุคที่มีแนวเรื่องแปลกใหม่ และมีความเข้มข้นน่าติดตาม จนแทบจะเรียกได้ว่าไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทางไหน โดยมีองค์หญิงผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นตัวเดินเรื่องหลักและราชบุตรเขยผู้มีเบื้องหลังลึกลับ กับแผนการชิงอำนาจในราชสำนักจนชวนให้อยากติดตามต่อว่าพระและนางจะใช้ความฉลาดและชั้นเชิงในการรับมือกับลับลวงพรางในราชสำนักและเปิดเผยโฉมหน้าศัตรูในคราบมิตรได้อย่างไร
ขณะที่การเมืองกำลังห้ำหั่น เรื่องรักก็เต็มไปด้วยอุปสรรค แต่พระนางของเราเล่มนี้ก็มีความฮาในระดับไม่ธรรมดาเลย องค์หญิงเซียวฉีถังผู้เก่งกาจชอบวางอำนาจ และเอาแต่ใจ กับราชบุตรเขยซ่งหลางเซิงสุดฉลาดมาดนิ่งที่ชอบยั่วโมโหด้วยวาจาแดกดันเจ็บๆ คันๆ รักของทั้งคู่เป็นรักที่ซึมลึก ทำให้เรารู้สึกทั้งรักทั้งขำกับการต่อปากต่อคำของทั้งสอง สุดท้ายแล้ว ท่ามกลางความจำเป็นและสถานการณ์ที่บีบบังคับ ทั้งสองจะลงเอยกันอย่างไร ยังเป็นเรื่องที่เราต้องเอาใจช่วย
สิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่การเล่าเรื่องผ่านอารมณ์ขันแบบประชดประชันของตัวละคร ทำให้แม้จะบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตึงเครียดและเจือความสะท้อนใจ แต่ก็มีมุกตลอดเสียดสีแทรกอยู่ตลอดเวลา จนทำให้เรายังหัวเราะได้ทั้งๆ ที่อยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ถึงจะสะเทือนใจก็ไม่หน่วงจนเกินไปนักทุกตัวละครจะค่อยๆ เผยโฉมหน้าของตัวเองออกมา ในที่สุดแล้ว ทุกอย่างจะจบลงด้วยดีหรือเปล่า ผู้อ่านต้องลุ้นและคาดเดาไปพร้อมๆ กับตัวละครเพราะนี่คือจุดที่สนุกที่สุดของเรื่องนี้
สำนักพิมพ์อรุณ