รายละเอียด : KAHLIL GIBRAN ปรัชญานำคิด คาลิล ยิบราน
KAHLIL GIBRAN ปรัชญานำคิด คาลิล ยิบราน
"35 บท" ที่อยู่ใน "ปรัชญาน่าคิดของ คาลิล ยิบราน" แสดงทัศนะจากความรู้สึกและความคิดที่หลากหลายเมื่อเขามองดูชีวิต ความรัก สภาพสังคมด้วยนัยน์ตาที่สะท้อนมุมมองของเขาเอง ยิบรานได้รจนาบทประพันธ์เพื่อมนุษยชาติในสากลโลก ร้องขอความรักที่มนุษย์พึงมีต่อกันอันจะขจัดความเห็นแก่ตัว ความโลภ โกรธ หลงทั้งมวลลงได้ ปรัชญารักของเขาทำให้เขาข้ามพ้นพรมแดนระหว่างชาติต่อชาติ และการเหยียดผิว
ตลอดชีวิตของยิบรานได้ยืนหยัดเพื่อมนุษยชน ช่วยเปิดตาของมนุษยชาติให้เห็นทั้งจุดของความอ่อนแอ และพลังแห่งความแข็งแกร่งในตน อีกทั้งพยายามแนะให้มนุษย์ได้ฝ่าฟันชีวิตที่เต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาม และก้าวต่อไปข้างหน้า อาทิ "ความหายนะของชาติบ้านเมือง หาได้เกิดจากน้ำมือของคนเล็กๆ ผู้ยากไร้ไม่ มีเพียงมือของผู้ปกครอง หรือคนรวยผู้มักมากเท่านั้นแหละ ที่จะฉีกทึ้งบ้านเกิดเมืองนอนของเขาได้" "หากท่านอายเมื่อถูกคนยกย่อง แลสงบงันเมื่อถูกคนกล่าวร้าย นั่นแหละแน่ไซร้...คือคุณธรรมของผู้ปกครอง" "ผู้นำใดยอมพลีกายให้เขาฆ่า ย่อมได้รับเกียรติมากกว่าเข่นสั่งฆ่าเขา" "ล้มเหลวเพราะหน้าบาง ดีกว่าสำเร็จอย่างหน้าด้าน" ฯลฯ
นี่เป็นเพียงบางบทที่เอ่ยกล่าว ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่เนื้อหาพัวพันกับการดำเนินชีวิตของเราๆ ช่างน่าแปลกเสียกระไร ที่บทความเหล่านี้เขียนไว้ในอดีต แต่เนื้อหาที่อ่านนั้นประเหมือนหนึ่ง ยิบราน เพิ่งเขียนและตอกย้ำให้เรา คิด วิเคราะห์ สังเกต และแก้ไข เพือให้เรื่องต่างๆ ผ่านไปได้ด้วยดี
รีวิวโดยผู้เขียน : KAHLIL GIBRAN ปรัชญานำคิด คาลิล ยิบราน
ปรัชญาน่าคิด คาลิล ยิบราน มหาบุรุษเปล่งรัศมีตลอดกาล แม้จากไปนานเหมือนยังอยู่
"ฉันมีชีวิตอยู่ในความโชติช่วงแห่งความรัก และในแสงเจิดจรัสของความงาม อันเป็นภาพสะท้อนของพระผู้เป็นเจ้า ฉันอยู่ที่นี่ มีชีวิตอยู่...และไม่อาจถูกเสือกไสไปจากอาณาจักรแห่งชีวิตนี้ได้ เพราะด้วยถ้อยคำที่มีชีวิตของฉัน ฉันจะมีชีวิตอยู่แม้ในความตาย"
คาลิล ยิบราน
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : KAHLIL GIBRAN ปรัชญานำคิด คาลิล ยิบราน
เคยรู้สึกอย่างนี้บ้างไหม? ภายใต้แสงตะวันเริงแรงเหนือฟากฟ้าอันไพศาล ดวงตาของคุณกลับมองไปทิศทางไหนก็มืดมัว ทุกอย่างดูสลัวลางคล้ายถูกปกคลุมด้วยเงาบางอย่าง เฉกเช่นสยามประเทศในยุคนี้ ฤาเงาอาธรรม์ใดครอบคลุมบ้านเมืองของเราไว้?
มหากวี คาลิล ยิบราน เคยกล่าวไว้ ความหายนะของชาติบ้านเมืองหาได้เกิดจากน้ำมือของคนเล็กๆ ผู้ยากไร้ไม่ มีเพียงมือของผู้ปกครอง หรือคนรวยผู้มักมากเท่านั้นแหละ ที่จะฉีกทึ้งบ้านเกิดเมืองนอนของเขาได้ แล...ท่านยังเอ่ยเอื้อนอีกว่า...ผู้ใดมีหัวใจที่มืดบอด ความคิดคับแคบ ยึดแต่ความเห็นของตนเป็นใหญ่นั้น...น่ากลัวนักหนา จะนำพาบ้านเมืองฉิบหาย ท่านจึงเฝ้าแต่เพรียกเรียกร้อง
ความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคุณสมบัติของคนดี หากท่านอายเมื่อถูกคนยกย่อง แลสงบงันเมื่อถูกคนกล่าวร้าย นั่นแหละแน่ไซร้ คือคุณธรรมของผู้ปกครอง ผู้นำที่จะเป็นมหาบุรุษของผองชน จักต้องยึดมั่นในเมตตาธรรม ซึ่งทรงฤทธานุภาพกว่าความโหดเหี้ยมทารุณ ผู้นำใดยอมพลีกายให้เขาฆ่า ย่อมได้รับเกียรติมากกว่าเข่นสั่งฆ่าเขา
อา...ท่านคาลิล ถ้อยวจีของท่านช่างไพเราะและทรงคุณค่าลึกซึ้งยิ่งนัก ประดุจแสงเทียนโชติช่วงสุกสว่าง ซึ่งจะช่วยขับไล่ความมืดมัวแห่งอาธรรม์ที่ครอบงำบ้านเมืองเราได้ ทว่า...จะมีสักกี่มากน้อยคอยสดับท่าน จะมีหูสักกี่หูเปิดรับเสียงเสนาะโสตของท่าน จะมีใจสักกี่ดวงสว่างไสวขึ้นด้วยบทรจนาของท่าน ราได้แต่หวัง