รายละเอียด : Gone Fishing with Buffett นั่งตกปลากับบัฟเฟตต์

หลักการลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) ของนักลงทุนระดับปรมาจารย์อย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นหลักการลงทุนที่ถูกนำไปสอนและเผยแพร่กันทั่วทุกมุมโลก ฌอน เซีย ผู้เขียนหนังสือ นักตกปลากับบัฟเฟตต์ ก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้เรียนรู้หลักการลงทุนดังกล่าว และนำไปประยุกต์ใช้ จนสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองสำเร็จมาแล้ว โดยในหนังสือเล่มนี้ ฌอนจะมาบอกเล่าวิธีการลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่าในแบบที่เข้าใจง่าย ทีละขั้น ทีละตอน ซึ่งเหมาะเป็นอย่างมากสำหรับมือใหม่ที่สนใจ และต้องการเรียนรู้วิธีให้เงินทำงานแทนตัวเอง นั่งตกปลากับบัฟเฟตต์ เป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่ง ผู้ผิดหวังมาจากการเก็งกำไรหุ้นในอดีต และกำลังมองหาวิธีการลงทุนที่ถูกต้อง เพื่อแก้ไขปัญหา และสร้างความมั่งคั่งทางการเงินให้กับครอบครัว จนวันหนึ่งเขาได้มาพบกับชายชรานักตกปลา ที่เพียงแค่คุยกันไม่กี่ประโยค ก็สัมผัสได้ถึงความแหลมคมทางความคิด และที่สำคัญ เขาเก่งกาจด้านการลงทุนชนิดที่ชายหนุ่มคาดไม่ถึง สุดท้ายบทเรียนจากชายชรานักตกปลาจะเปลี่ยนชีวิตของเม่านักเก็งกำไรในอดีตได้หรือไม่ เรื่องราวทั้งหมดรอให้คุณติดตามใน E-book Gone Fishing with Buffett นั่งตกปลากับบัฟเฟตต์ เล่มนี้แล้ว

รีวิวโดยบุ๊คเมท : Gone Fishing with Buffett นั่งตกปลากับบัฟเฟตต์

จงเลือกแหดักปลา ไม่ใช่เบ็ดตกปลา << หนึ่งในข้อคิดที่มาจากเนื้อหา
ของ E-Book หนังสือประเภทการบริหารธุรกิจและความรู้ด้านการเงิน

“Gone Fishing with Buffett นั่งตกปลากับบัฟเฟตต์”..
…มีชายชราคนหนึ่ง ชวนชายหนุ่มแข่งตกปลา โดยกำหนดเวลาที่
ในหนึ่งชั่วโมง ใครตกปลาได้มากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งตอนแรก
ชายหนุ่มที่ใช้เบ็ดตกปลาได้มากกว่า แต่ก่อนจะหมดเวลา ชายชรา
กลับดึงแหดักปลาที่ซ่อนอยู่ขึ้นมาและพลิกเป็นฝ่ายชนะไปในที่สุด
.
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ชายหนุ่มได้ค้นพบข้อคิดต่างๆ ได้นั่งพูดคุย
กับชายชราที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดอันเฉียบคมในด้านการลงทุน
.
จะเห็นได้ว่า ผู้เขียนเล่มนี้ มีการใช้เทคนิค Storytelling แบบกึ่งนิยาย
แล้วสอดแทรกความรู้ แนวคิดด้านการลงทุนต่างๆ ผ่านบทสนทนาของ
ตัวละคร เพราะคนเรานั้น มักจะจดจำและเข้าใจเรื่องเล่าได้ดีกว่าท่องจำ
.
โดยวันนี้ จะขอยกตัวอย่าง ข้อคิด หรือ หลักการลงทุนที่ชายชรา ได้สอน
ชายหนุ่มผู้บาดเจ็บและสูญเสียเงินไปจำนวนมากจากการเล่นหุ้น เช่น
-กฏเหล็กของการลงทุน คือ ห้ามขาดทุน เพราะสมมติว่าเราขาดทุน
ไป 50% กว่าจะลงทุนให้เงินที่ขาดทุนก้อนนั้นโตกลับมา จะต้องทำผล
ตอบแทนให้ได้ 100%(พูดง่ายๆ คือ ต้องให้เงินทำงานหนักขึ้นเป็น 2 เท่า)
-ความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจาก “การละเลย” เปรียบดั่งการ
ไปปีนเขาโดยไม่เตรียมตัวเลย แน่นอนความเสี่ยงก็ย่อมสูงขึ้นเช่นกัน
-การเลือกหุ้น ให้ดูที่ไส้ในของตัวหุ้นนั้น (ซึ่งก็คือ ตัวธุรกิจ)
ต่อให้เราซื้อหุ้นของบริษัท “เพื่อนสนิท” ที่โดยปกติแล้วเป็นคนดีมาก
เราจึงไว้ใจตัวเพื่อนเรามาก แต่มันคนละประเด็นกับศักยภาพธุรกิจของเพื่อน
ซึ่งเราต้องวิเคราะห์ก่อนว่า ธุรกิจดังกล่าวขายอะไร ยอดขายในแต่ละปี
ดีจริงไหม รวมถึงในอนาคตมีโอกาสเติบโตในระยะยาวหรือไม่
.
สุดท้ายนี้ ยังมีวลีเด็ดที่คุณปู่ 'วอร์เรน บัฟเฟตต์' ได้กล่าวเอาไว้ว่า
'Price is what you pay, Value is what you get' ความหมาย คือ
เมื่อเราวิเคราะห์หุ้นที่เราสนใจ จนประเมินอนาคตได้แล้วว่า กิจการของ
หุ้นนั้นสามารถเติบโตไปอย่างไรได้บ้าง ..ให้ย้อนกลับมาดูราคาที่เราต้อง
จ่ายไปเพื่อซื้อ “หุ้นนั้น” ในวันนี้ ว่าเหมาะสมกับมูลค่าที่จะได้รับหรือไม่