รายละเอียด : ภาษาไอ้สัจ

- หนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับอะไรหนังสือเล่มนี้จะว่าด้วยเรื่องของ ”ความจริง” เกี่ยวกับปัญหาของการเรียนภาษา เช่นทำไมคนไทยส่วนใหญ่พูดได้แค่ภาษาเดียว ทั้งๆที่เรียนภาษาอื่นมาเป็นสิบๆปีตั้งแต่อนุบาลยันจบปริญญาองค์ประกอบแห่งความสำเร็จทางภาษาคนที่ประสบความสำเร็จทางภาษาต้องมีองค์ประกอบ4อย่างคือ ความรู้พื้นฐาน แนวคิด วิธีการ และการลงมือทำ ซึ่งถูกแยกออกมาเป็น4บทใหญ่ๆ1. ความรู้พื้นฐาน (บทที่ 1 ไอ้สัจ! ภาษาคืออะไร)ความรู้ทุกแขนงมันมีพื้นฐานของมัน พื้นฐานที่เรากำลังพูดถึงคือความหมาย ที่มาที่ไปและทำไมต้องเรียน ตรงนี้ถ้าไม่ชัดเจน ก็เรียนภาษาได้ยากเหมือนเราอยากจะทำธุรกิจซักอย่างแต่เราไม่รู้ที่มาที่ไปของเงิน ไม่รู้ว่าเงินมีหลักการทำงานแบบไหน แบบนี้จะทำให้ทำธุรกิจยาก ภาษาก็เหมือนกัน ถ้าไม่เข้าใจว่าภาษาคืออะไรใจคอจะเรียนอย่างเดียว ก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กไทยหลายคนที่เรียนอังกฤษแบบงงๆ2. แนวคิด (บทที่ 2 ความเชื่อผิดๆที่ทำให้คนทั่วไปเรียนภาษาไม่ได้) ถ้าใช้แนวคิดแบบคนจนเราก็จะลงมือทำให้ตัวเองจน ถ้าคิดแบบคนรวยก็จะลงมือทำในสิ่งที่ทำให้ตัวเองรวย ภาษาก็ไม่ต่างกัน ถ้ากำลังเรียนภาษาอยู่แล้วเกิดความคิดทำนองที่ว่า "เรียนทำไม ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่กรู" แบบนี้เรียนไม่สำเร็จแน่นอน100%3. วิธีการ (บทที่ 3 อย่าเรียนภาษา ถ้าไม่อ่านตรงนี้) เคยได้ยินไหม "ทำสิ่งที่ใจรักแล้วจะสำเร็จ" มันไร้สาระพอๆกับความคิดที่ว่า "อยากลดน้ำหนักแต่ชอบกิน ก็เลยกินเยอะๆน้ำหนักจะได้ลด" เห็นไหมว่าสิ่งที่ทำแล้วชอบกับสิ่งที่ทำแล้วได้ผลมันไม่ใช่สิ่งเดียวกันเสมอไปเพราะ ทุกอย่างมันมีวิธีการของมัน ถ้าคุณหรือมึงอยากลดน้ำหนักก็ต้องกินพลังงานเข้าไปน้อยๆแล้วไปใช้เยอะๆ จะทำด้วยความชอบหรือไม่ชอบน้ำหนักก็ลดอยู่ดี วิธีการเรียนภาษาเองมีทั้งแบบที่ได้ผลและไม่ได้ผล ไอ้พวกวิธีที่มันไม่ได้เรื่อง ต่อให้เราไปชอบมัน มันก็ไม่ได้เรื่องอยู่วันยันค่ำ ถ้าชอบอันที่ได้ผลอยู่แล้วมันก็ดีทำต่อไป แต่ถ้าไม่ชอบก็เลือกเอาว่าจะพยายามเรียนรู้ที่จะชอบมันไหมหรือถ้าไม่ ทำไปทั้งๆที่ไม่ชอบแบบนั้นแหละ ไม่ว่าทางไหนสามารถสำเร็จได้เหมือนกัน4. ลงมือทำ (บทที่4 ขั้นตอนการเรียนภาษา step by step)มีความรู้พื้นฐาน แนวคิดดี มีวิธีการ แต่ไม่ทำอะไรก็ไร้ค่า เป็นได้แค่เคลื่อนไฟฟ้าที่วิ่งไปวิ่งมาบนสมอง ไม่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ดังนั้นรู้อย่างเดียวไม่พอต้องทำด้วย4 องค์ประกอบนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเรียนภาษาให้ประสบความสำเร็จจะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้ แต่อย่าลืมว่าคนทุกคนไม่เหมือนกัน แนวคิดหรือวิธีการของหนังสือเล่มนี้จึงไม่สามารถนำไปใช้ได้ผลสำหรับทุกคน ดังนั้นผมขอว่าอย่าอ่านแล้วทำตามโดยทันทีแต่ขอให้ “อ่านแล้วนำไปปรับให้เข้ากับตัวคุณเอง”