รายละเอียด : บันทึกความคิด เล่ม 1

ความคิดของคนเรามันผุดขึ้นเรื่อย ๆ บางครั้งก็มีสาระและไร้สาระ
ในบางครั้งชีวิตคนเราก็เกิดบางสิ่งบางอย่างมากระทบจิตใจ แล้วเกิดความคิด ผมเป็นคนหนึ่งที่คิดเรื่องต่างๆ ไปทั่ว บ้างก็คิดถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า ควรตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท และดำรงอยู่ใน ปัจจุบัน รงค์ วงษ์สวรรค์ กล่าวว่า “รู้จักวันนี้ ดีพอแล้วหรือ จึงไปพูดถึงวันพรุ่งนี้” มีหลายสิ่งหลายอย่างที่กล่าวเกี่ยวกับ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยเฉพาะอนาคตนั้น ไม่มีใครจะรู้ดีเท่าหมอดู หมอดูอาจทำนายทายทัก ฉายภาพอนาคตให้เราได้เสมอ และมันก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป คงได้ยินคำกล่าวที่ว่า “หมอดูคู่หมอเดา” กันมาบ้าง แต่เรื่องความคิดของคนนั้นเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดถึงอดีต มีสิทธิ์ที่จะคิดถึงปัจจุบัน และมีสิทธิ์ที่จะคิดถึงอนาคต
แม้เรื่องราวต่างๆ เหล่านี้จะมีทั้งที่เป็นประโยชน์และไร้สาระ เรื่องราวของความคิดนั้นมีอยู่ในทุกช่วงเวลาของชีวิต บันทึกความคิด เล่ม 1 นี้ จึงเป็นงานที่พยายามเล่าเกี่ยวกับตัวตนของผมเอง ว่าคิดเช่นใดบ้าง มันอาจช่วยบำบัดความเหงาอันหว้าเหว่ลงได้บ้าง แต่สิ่งที่จะสื่อออกต่อไปนี้ ผู้อ่านไม่จำเป็นต้องเชื่อว่ามันเป็นจริงเสมอไป และไม่สำคัญหรอกว่าความคิดที่ผมจะเล่าต่อไปนี้จะเป็นเรื่องราวที่แสนดีหรือสิ่งที่แย่ ผู้อ่านเท่านั้นจะเป็นคนตัดสิน การอ่านนวนิยาย หรือเรื่องสั้น ใครก็ไม่รู้กกกล่าวไว้ว่า “การอ่านคือการอ่านในสิ่งที่คนอื่นคิด” “การเขียนคือการเขียนความคิดให้คนอื่นอ่าน” เรื่องราวของความคิดมันจึงมีหลายลักษณะพอสมควร บางท่านจะเห็นว่าความคิด โดยเฉพาะด้านการเมือง ความคิดทางการเมืองเป็นรายวิชาหนึ่งในสาขาทางรัฐศาสตร์ นักคิด มีมาแต่โบราณแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทางโลกตะวันตก อาทิ โสเกรตีส, เพลโต, อริสโตเติล, มาคิดอาเวลี, โทมัส ฮอบส์, จอห์น ล็อค, รุส โซ, ฯลฯ นักคิดคนสำคัญของไทย อาทิ เทียนวรรณ, นายผี, จิตร ภูมิศักดิ์, ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีนักคิดก่อนหน้าอีกมากมาย ที่ไม่ได้กล่าวถึง ผมเองคงไม่อาจเทียบรุ่นกับนักคิดต่างๆ แต่เพียงอยากจะสื่อออกมาว่า ทุกคนสามารถที่จะคิดได้ สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นเองอัตโนมัติ มีทั้งด้านมืดและด้านสว่างเสมอ จนกระทั่งวันนี้ ผมเองยังคิดว่าสิ่งที่ตนเองได้คิด มันก็ยังไม่ถูกต้อง จึงพยายามกลั่นเอาความคิดเหล่านี้มาเขียนไว้ เพื่อสำรวจตัวเอง ในวันข้างหน้า ผมอาจจะกลับมาอ่านงานเก่าของตน แล้วรู้สึกหัวเราะก็เป็นได้ จึงตั้งชื่อหนังสือเล่มเล็กนี้ว่า บันทึกความคิด เล่ม 1 เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะคิดอะไรอีกได้เมื่อไหร่ บางครั้งมันอาจมีเล่ม 2, เล่ม 3, เล่ม 4, ถึงเล่มพัน, ฯลฯ ก็เป็นได้ หากมีอายุยืนยาว และไม่ขี้เกียจ ล้มเลิกที่จะเขียนบันทึกไว้
เชิญร่วมลิ้มรสความคิดบางช่วงของผมดูแล้วกัน ว่าดีหรือแย่เพียงใด