รายละเอียด : ภรรยาแปลกหน้า
“คนแปลกหน้า” ที่ตกอยู่ในสถานะ “ภรรยา” ต้องกล้ำกลืนน้ำตาเก็บความรู้สึกไว้ เพราะชายหนุ่มมีคนรักอยู่แล้ว เธอเลือกเป็นฝ่ายไปพร้อมลูกน้อยในครรภ์ เพื่อให้ใครอีกคนเข้ามาเป็น “ตัวจริง”
“ขุน กรวิชญ์” นักธุรกิจหนุ่มอนาคตไกล ฝังใจกับความเจ้าชู้ของพ่อที่ทำให้แม่ต้องหอบเสื้อผ้าหนี ถึงขนาดตราหน้าว่าพ่อพา “เมียเด็ก” เข้าบ้าน เขาจึงตั้งแง่รังเกียจเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ
“ม่อน มนสิชา” เด็กสาวผู้พบเจอฝันร้ายในอดีต ต้องเป็นกำพร้าตั้งแต่ยังเด็ก แม้จะได้รับการอุปการะจากคุณลุงผู้ใจดี แต่เธอกลับถูกหมางเมินจากลูกชายของคุณลุง ที่มองเธอเป็นเพียง “คนแปลกหน้า”
แต่สุดท้าย “เส้นขนาน” ทั้งสองเส้นก็ต้องมาบรรจบกัน โดยต่างฝ่ายต่างอยู่ในสถานะจำยอม
==================
น้ำจิ้ม…
ภายในห้องนอนกว้างเหลือเพียงคู่บ่าวสาว ทั้งคู่ต่างกระวนกระวายใจเดินสวนกันไปมาเหมือนเป็นคนแปลกหน้าระหว่างกัน ก่อนที่มนสิชาจะรีบก้าวไปจับลูกบิดประตูเตรียมเปิดออก แต่ถูกมือใหญ่ของกรวิชญ์คว้าไว้และกระชากจนร่างเล็กกระเด็นเข้าสู่อ้อมแขน
“จะไปไหน” สีหน้าของเขาแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ถามด้วยน้ำเสียงและแววตาดุดัน พร้อมลงความเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นแผนการของมนสิชาที่ขอให้ไพศรพณ์จัดงานแต่งงานให้ เพราะเมื่อช่วงเย็นก่อนงานเริ่ม เขาเห็นเธอนั่งประจบเอาใจพ่อของเขาอยู่ คงจะกลัวว่าพอเขาขึ้นมาดูแลธุรกิจและมีอำนาจทุกอย่างแล้ว ตัวเองจะต้องกระเด็นออกจากบ้านหลังนี้
“ม่อน…เอ่อ ฉันจะไปดูคุณลุงค่ะ”
“ไม่ต้องไป เธอใช่ไหมที่เป็นคนบอกให้พ่อทำเรื่องบ้า ๆ พวกนี้”
“เรื่องบ้า ๆ” เธอพูดซ้ำในสิ่งที่ได้ยินอย่างไม่เข้าใจ
“ก็เรื่องแต่งงานบ้า ๆ นี่ไง ทำไม…พอเห็นว่าพ่อฉันป่วยก็เลยกลัวว่าจะไม่ได้เป็นคุณผู้หญิงของบ้านงั้นเหรอ”
“คุณพูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ”
“ไม่ต้องมาตีหน้าซื่อ ฉันรู้ว่าเธอเข้ามาที่นี่เพราะหวังจะฮุบสมบัติของพ่อฉัน คงจะโกรธมากสินะที่พ่อฉันขับรถชนพ่อเธอตาย” กรวิชญ์พูดในสิ่งที่มนสิชาอยากลืมมาทั้งชีวิต กว่าจะผ่านพ้นฝันร้ายในอดีตมาได้เธอต้องใช้เวลานานมาก โดยที่เขาไม่เคยรับรู้ความยากลำบากทางจิตใจในช่วงนั้นเลย ปากร้าย ๆ ของเขายังคงพ่นคำพูดต่อไปไม่หยุด “ตอนนี้เธอคงเห็นว่าพ่อฉันป่วยก็เลยกลัวว่าจะถูกเฉดหัวส่งสินะ มนสิชา”