ออกจากจวนมาไขคดี 3

ผู้เขียน: เหยาจี้ซาน

สำนักพิมพ์: แจ่มใส

หมวดหมู่: นิยายแปล , นิยายจีนแปล

5 (1) เขียนรีวิว

424.00 บาท

499.00 บาท ประหยัด 75.00 บาท (15.03 %)

จำนวนคะแนนที่ได้รับ 16 คะแนน

  • ส่วนลด:
    ลด 15%
  • โปรโมชั่น:Naiin.com Let’s Read อ่านหนังสือคุ้ม ลดเลยสูงสุด 30%*

Tags: แจ่มใสเหยาจี้ซาน , นิยายแปล , นิยายจีนแปล

424.00 บาท

499.00 บาท
499.00 บาท
ประหยัด 75.00 บาท (15.03 %)

จำนวนคะแนนที่ได้รับ 16 คะแนน

จำนวน :

1

  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
  • 6
  • 7
  • 8
  • 9
  • 10
  • โปรโมชั่นพิเศษ:
    • Naiin.com ช้อปหนังสือคุ้ม ลดแรง ต่อที่ 2 ลดเลยทันที 150 เมื่อซื้อครบ 1200.-
จำนวนหน้า
480 หน้า
ประเภทสินค้า
ขนาด
14.5 x 21 x 2.8 CM
น้ำหนัก
0.573 KG
บาร์โค้ด
9786160630172

รายละเอียด : ออกจากจวนมาไขคดี 3

    หลี่ซีกับเหอสุยเข้ากันได้ดีมากขึ้นเนื่องจากไม่ชอบงานเย็บปักถักร้อยเช่นเดียวกัน เมื่อเดินทางถึงอำเภอเผิงไหลทุกคนก็ลงจากรถม้า หลี่ซีที่ไม่ค่อยได้ออกจากเรือนตื่นเต้นอย่างมาก ผิดกับเหอสุยที่ดูไม่ตื่นเต้นเพราะน่าจะเป็นคนที่ได้ออกจากเรือนบ่อยครั้ง เฉินอิ๋งคอยสังเกตท่าทางของคนที่ร่วมเดินทางทั้งหมด รวมถึงหลี่หัง กัวหว่านและเยี่ยชิงที่ดูแล้วไม่ใช่แค่สาวใช้ธรรมดาผู้นั้นด้วย จากนั้นทุกคนก็ออกเดินทางต่อ ทว่าเฉินจวิ้นต้องอยู่ที่อำเภอเผิงไหล นั่นเป็นการจัดการของหลี่เหิง ที่เหล่าสตรีทั้งหมดคาดไม่ถึงก็คือขบวนเดินทางถูกลอบโจมตี เยี่ยชิงเปิดเผยตัวในที่สุดว่าตนเองเป็นวรยุทธ์และถูกส่งมาดูแลพวกนาง เพียงแค่ว่าไม่บอกว่าใครส่งมา หลี่ซีคิดหาเหตุผลที่ขบวนเดินทางนี้ถูกลอบโจมตีได้ ด้วยหลี่เหิงต้องการยื่นฎีกากล่าวโทษขุนนางโลภมากพวกนั้น แต่ในเวลาเดียวกันก็เกรงคนพวกนั้นจะลงมือกับพวกนางตรงๆ ดังนั้นหลี่เหิงถึงได้จงใจให้หนีซื่อมารดานางพาพวกนางมาจุดธูปไหว้พระ เรื่องนี้อันที่จริงก็แค่ฉากบังหน้าเท่านั้น หลี่เหิงให้เปลี่ยนทิศทางกะทันหัน ส่งพวกนางไปยังอีกอำเภอหนึ่ง หลี่หังให้เฉินจวิ้นกับบุตรชายคนรองหลี่เก๋ออยู่ที่เดิม น่าจะเพราะต้องการล่อลวงศัตรู เพียงแต่ว่าเขานั้นจะสามารถปกป้องคนทั้งสองได้จริงหรือไม่เป็นสิ่งที่เฉินอิ๋งเองก็ไม่มั่นใจ เฉินอิ๋งพยายามควบคุมตนเองไม่ให้วู่วามเรียกหยุดรถม้ามุ่งหน้ากลับไปยังอำเภอเผิงไหล คนพวกนั้นจะยอมทำตามคำสั่งนางหรือไม่ไม่จำเป็นต้องพูดถึง เพราะแค่เยี่ยชิงผู้เดียวก็น่าจะยับยั้งการเคลื่อนไหวของนางได้แล้ว ในเมื่อคนที่คุมหมากกระดานนี้คือหลี่หัง เช่นนั้นการใคร่ครวญตัดสินใจของเขาก็น่าจะเชื่อถือไว้วางใจได้มากกว่าการตัดสินใจของนางในยามนี้ เฉินอิ๋งจึงพยายามหักใจเป็นผู้ตามที่ดี จนกระทั่งขบวนถูกโจมตีอย่างนั้น ยามนั้นเองที่นางต้องก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำขบวนด้วยตนเอง คดีทุจริตทั้งหลายทั้งปวงมักมีขุนนางพ่อค้าวาณิชร่วมด้วยเสมอ สกุลหานเป็นพ่อค้าผู้มั่งคั่งของเติงโจว เชื่อว่าย่อมเข้าใจเส้นสนกลในของเรื่องนี้ เมื่อพวกเขาตกลงรับปากช่วยเหลือ เช่นนั้นหลี่เหิงย่อมต้องส่งครอบครัวของพวกเขาออกมา ถือเป็นการช่วยเหลือปกป้องคุ้มครองอีกฝ่าย นั่นก็คือเหตุผลที่กัวหว่านและญาติผู้น้องทั้งสามของนางอันได้แก่หานสวิน คุณหนูใหญ่หานเหยาอี๋ คุณหนูรองหานเหยาได้ ‘บังเอิญ’ มาร่วมทางด้วยในครานี้ ทางหลวงเติงโจวมิได้โยงใยถึงกันหมด ทางหลวงนอกอำเภอหวงก็เช่นเดียวกัน ขบวนรถจึงได้แต่แล่นขึ้นมาอยู่บนถนนลูกรัง หลังจากนั้นหยุดทำการพัก ตรวจสอบสภาพม้าและล้อรถ ก่อนจะเริ่มออกเดินทางกันอีกครั้ง การเดินท่านเช่นนี้ชวนให้คนรู้สึกเหนื่อยล้าไม่ใช่น้อย รถโขยกเขยกคนในรถโงนเงนซ้ายขวาหน้าหลังตลอดทาง เฉินอิ๋งเองหาได้เป็นไรไม่ ห่วงก็แต่สตรีอ่อนแออย่างหลี่ซีที่อาจทนไม่ไหว แต่นางกลับนึกไม่ถึงว่าหลังจากโยกคลอนกันมาเกือบหนึ่งชั่วยาม หลี่ซีกลับกัดฟันทนไม่พูดอันใดแม้แต่ครึ่งประโยค ช่างชวนให้คนรู้สึกประหลาดใจยิ่ง ก่อนหน้านี้ตอนเปลี่ยนรถ เฉินอิ๋งได้จัดการเปลี่ยนกระบวนทัพเสียใหม่ ให้เหอ หาน หลี่สามสกุลแยกย้ายโดยสารอยู่ในรถของพวกตนเอง จะได้สะดวกในการดูแลกันและกัน เพียงแต่ระหว่างนั้นกลับเกิดปัญหาขึ้น เหอสุยเป็นตายเช่นไรก็ไม่ยอมขึ้นรถม้าสกุลเหอ ขออยู่ด้วยกันกับหลี่ซี เมื่อจนปัญญาหลี่กงจึงสลับสับเปลี่ยนกับนาง วิ่งไปร่วมอยู่ในรถคันเดียวกับหวงซื่อและลูกแทนเหอสุย เฉินอิ๋งคิดว่าเป้าหมายที่เหอสุยขออยู่ร่วมรถเดียวกันกับหลี่ซีนั้นยากจะอธิบายให้ชัดเจน บางทีอาจเพราะหลี่ซี และยิ่งเป็นไปได้มากว่าอาจเป็นเพราะเยี่ยชิง หากพิจารณาดูจากปฏิกิริยาของหวงซื่อ ฮูหยินผู้นี้น่าจะไม่รู้ถึงฐานะที่แท้จริงของเยี่ยชิง ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเหอสุยไม่ได้บอกให้ผู้เป็นมารดาทราบ และที่ยิ่งทำให้เฉินอิ๋งประหลาดใจคือเยี่ยชิงคล้ายไม่ได้มาเพื่อปกป้องคนสกุลเหอ ตั้งแต่ต้นจนจบนางล้วนเลือกที่จะร่วมรถอยู่กับหลี่ซีและ
เฉินอิ๋ง ราวกับใครส่งอีกฝ่ายมาคุ้มครองนางกระนั้น จุดหมายที่เฉินอิ๋งเลือกให้ทุกคนเดินทางไปหลบพวกผู้อพยพและกลุ่มโจรคือเขากุ่ยคู เหอสุยนั้นพอได้ยินชื่อสถานที่ก็ตกใจอย่างมาก นางเล่าว่าเคยได้ยินเรื่องเล่าบอกว่าพระชายาของคังอ๋องพาคนทั้งครอบครัวดื่มยาพิษฆ่าตัวตาย อย่างน่าเวทนายิ่งอยู่กลางเขา ต่อมาทางราชสำนักได้ส่งขุนนางทหารมา ทำการปิดเขาค้นหาอยู่หลายวัน ศพพวกนั้นถูกกลับฝังอยู่ที่นั่น ฝังอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่พวกนางซ่อนตัวกัน นับแต่นั้นเป็นต้นมาก็มักมีคนได้ยินเสียงสตรีและเด็กร่ำไห้ดังลอยมาจากทีนั่น ในหมู่บ้านนั้นเดิมมีครอบครัวนายพรานพักอาศัยกันอยู่หลายครัวเรือน เพียงแต่เพราะพวกเขามักเจอกับภูตผีก่อกำแพง บางครั้งถึงกับเดินวนเวียนอ้อมไปอ้อมมาอยู่ถึงครึ่งค่อนคืน มีอยู่ครั้งหนึ่ง นายพรานคนหนึ่งขึ้นเขาไป กว่าจะกลับลงมาได้ก็หลังจากผ่านไปเป็นนาน ตอนกลับมาถึงเขาก็เสียสติสิ้นแล้ว เอาแต่บอกว่ามีผีหญิงสาวตามติดเขาไม่เลิก ต่อมาเขาก็กระโดดหน้าผา กว่าจะหาศพของเขาพบ ศพนั่นก็เน่าเปื่อยหมดสิ้น เรื่องนี้ทำให้คนอื่นๆ ในรถม้าพลอยหวาดผวาตามไปด้วย ทว่าอย่างไรทุกคนก็ต้องเดินทางไปหลบซ่อนที่นั่น เพราะนี่คือทางรอดเดียวที่เฉินอิ๋งคิดออกมาได้แล้ว ยามนี้พวกเฉินอิ๋งลงจากรถมากันหมดแล้ว ทุกคนต่างหวาดประหวั่น หวงซื่อโอบบุตรชายทั้งสองของตนเองไว้ หมิงซินใบหน้าซีดเผือด หนีซื่อกับหลี่ซื่อแม้จะวางตนสงบนิ่งได้ แต่ก็ยังกระวนกระวายใจอย่างมาก นอกจากเยี่ยชิงกับหม่าเหล่าซานแล้ว คนนับว่าสงบนิ่งมีเพียงเฉินอิ๋งกับกัวหว่านเท่านั้น บ่าวไพร่ของนางพวกนั้นบ้างก็ไปหาที่มาของแหล่งน้ำ บ้างก็ไปค้นหาข้าวของภายในรถ บ้างก็ไปตรวจดูลักษณะพื้นที่โดยรอบ สารถีทั้งสองกำลังปลดล่อออกจากแอกรถ กัวหว่านจัดการเรื่องราวต่างๆ พลางพูดจาปลอบโยนลูกพี่ลูกน้องที่ตื่นตระหนก เหล่านี้ทำให้เฉินอิ๋งตะลึงในความสงบของนางอยู่ ในค่ำคืนนั้นกลุ่มโจรชุดดำและผู้อพยพตัวปลอมเหล่านั้นก็ตามมาถึง เฉินอิ๋งคิดแผนล่อลวงต่างๆ มากมาย เช่นการฆ่าล่อเพื่อให้กลิ่นคาวเลือกขู่ขวัญฝ่ายตรงข้าม แสร้งทำว่ามีคนตายมากมาย หรือการโจมตีด้วยน้ำมันร้อนและจุดไฟเผา นางแก้ปัญหาต่างๆ ไปทีละข้ออย่างใช้สติปัญญาโดยตลอด จริงถ่วงเวลาได้มาพอที่จะรอคอยกำลังหนุนซึ่งนางให้คนไปขอความช่วยเหลือตั้งแต่ระหว่างที่เดินทางหลบหนีแล้ว ทว่าในช่วงเวลาสุดท้ายอาวุธของฝั่งเฉินอิ๋งก็แทบจะหมดลง อีกทั้งกลุ่มโจรก็ยังเหลืออยู่สี่ถึงหกคน ไม่พอให้ธนูสองดอกปลิดชีพโจรแล้วทุกคนรอดตาย รวมทั้งเยี่ยชิงยามนั้นยังเจ็บหนักจนช่วยเหลืออะไรนางไม่ได้แล้วด้วย เฉินอิ๋งใช้วิธีการพูดทำให้กลุ่มโจรแตกหักกัน จ้าวเปียวหัวหน้าโจรถูกเหล่าจิ่วหักหลังและฆ่าตาย เมื่อเหล่าจิ่วเดินขึ้นหน้ามาหมายจัดการเฉินอิ๋ง เขาก็ต้องตกใจอย่างมากที่พบว่านางเป็นสตรีเพราะนางสวมชุดบุรุษอยู่ตลอดและมีท่าทีห้าวหาญยิ่ง เขายิ่งแค้นนางมาก ในตอนที่เขากำลังจะลงมือฆ่านางก็มีทวนปักที่หลังเขาจนสิ้นใจ ผู้มาช่วยไว้คือหลางถิงอวี้คนของเผยซู่นั่นเอง ก่อนที่เผยซู่จะปรากฏตัวตามมาอยู่ข้างๆ เฉินอิ๋ง เฉินอิ๋งไม่เคยคิดว่าตนเองจะดีใจที่ได้พบเผยซู่มากมายเท่านี้มาก่อนเลย เผยซู่เข้ามาดูแลช่วยเหลือจัดการเรื่องต่างๆ ในขบวนเดินทางของพวกเฉินอิ๋งให้ดีขึ้น หลังจากนั้นเขาก็แยกตัวไปติดตามองค์รัชทายาท ทว่าหลังจากเขาไปได้ไม่นาน ขบวนเดินทางของเฉินอิ๋งยังไม่ทันเริ่มเดินทางอีกครั้ง เขาก็ส่งคนมาขอตัวเฉินอิ๋งไปจากหลี่ซื่อ เนื่องจากยามนี้องค์รัชทายาทต้องการพบนาง เมื่อเฉินอิ๋งมาพบองค์รัชทายาทแล้ว เผยซู่จึงเล่าเรื่องราวให้นางฟัง ด้วยเขากุ่ยคูแห่งนี้มีสถานที่อยู่แห่งหนึ่งที่พวกเขาต้องการหามันให้พบ ทว่าหลังจากใช้เวลาไปตลอดครึ่งเช้าพวกเขากลับพบว่าเรื่องนี้มิได้ง่ายดายเหมือนอย่างที่คิด ซึ่งสถานที่นั้นเกี่ยวข้องกับคังอ๋อง... อำเภอเผิงไหลหรือจะเรียกว่าเติงโจวก็ได้จัดเป็นพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติหนักหนาสาหัส ทุกปีราชสำนักล้วนต้องเบิกจ่ายเงินทองจำนวนมากเพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้ไม่นานเผยซู่ยังหลุดปากพูดออกมาอีกประโยคว่าเงินท้องพระคลัง ไม่อาจ ‘เติมเต็ม’ หากผนวกเรื่องทั้งสองเข้าด้วยกัน คำตอบเหมือนจะมีอะไรบางอย่างไม่สู้ดีนัก เฉินอิ๋งถามออกมาตามตรงว่าพวกเขาอยากให้นางทำอะไรบ้าง องค์รัชทายาททรงพบเจอสตรีในวังหลวงที่มักพูดจาอ้อมค้อมจนชิน ยามนี้พอจู่ๆ ต้องมาเจอคนที่ไม่รู้จักวิธีพูดจาอ้อมค้อม เขาถึงกับทรงปรับตัวไม่ทัน เผยซู่จึงพูดขึ้นเสียเองว่าต้องการให้นางช่วยหาสถานที่นั้น เฉินอิ๋งพาพวกเผยซู่และเยี่ยชิงเข้าไปค้นหาสถานที่แห่งนั้น วิธีการค้นหาในครานี้ล้วนไม่ง่ายดาย นางต้องวางแผนอย่างหนักเลยทีเดียว แล้วก็ยังต้องลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้งหลายครา ด้านเผยซู่ถึงก่อนหน้านี้เขาเองก็หวังว่าตนเองจะพอมีโชคอยู่บ้าง ทว่าแท้แล้วเขากลับรู้อยู่แก่ใจว่าการเดินทางเมื่อครู่โอกาสคว้าน้ำเหลวนั้นอย่างไรก็ต้องมีมากกว่าครึ่งแน่ เมื่อเช้าเขาเดินอยู่ในป่านี้ถึงสามรอบ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ประสบความสำเร็จอันใด ยามนี้ก็ยังคงไม่ต่างกับก่อนหน้านี้ คงได้แต่ถือว่าที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อช่วยให้เฉินอิ๋งได้คุ้นเคยกับพื้นที่เท่านั้น เขารู้สึกอยู่นานแล้วว่าป่าแห่งนี้แปลกประหลาด หากนี่เป็นค่ายกลที่มีคนสร้างเอาไว้จริง เช่นนั้นคิดจะทำลายมันคงไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งนี้ก็เพราะการเดินทางมาคราวนี้เขาไม่ได้พาคนที่มีความเข้าใจเรื่องฉีเหมินตุ้นจย่ามาด้วย ตรงกันข้ามเขากลับพาคนที่มีวรยุทธ์ฝีมือล้ำเลิศมาด้วยเป็นจำนวนมาก ทว่าภายใต้ค่ายกลเช่นนี้ต่อให้เป็นจอมยุทธ์มากฝีมือขนาดไหนก็ยากจะทำประโยชน์อันใดได้ เฉินอิ๋งเองก็รู้แล้วว่าที่นี่อาจมีค่ายกล นางไม่มีความรู้ด้านนี้ แต่ก็ไม่ทดท้อแต่อย่างไร สุดท้ายใช้ความรู้เรื่องอื่นๆ ในยุคปัจจุบันและความรู้ที่เห็นจากการสืบคดีในฝันเอาชนะค่ายกลนี้ได้สำเร็จ และเจอสถานที่ที่องค์รัชทายาทค้นหาได้ในที่สุด เผยซู่เล่าให้เฉินอิ๋งฟังว่ารายงานของข้าหลวงเติงโจวในเวลานั้นบอกว่าเขาฝอโถวป่ารกครึ้ม เต็มไปด้วยหน้าผาก้อนหินรูปร่างแปลกประหลาด ไม่อาจหาตำแหน่งที่ตั้งของเรือนตากอากาศแห่งนี้พบ หากต้องการค้นหาทั่วทั้งเขาก็จำต้องส่งกองกำลังทหารกลุ่มใหญ่มา แน่นอนว่าในเวลานั้นยังจำเป็นต้องทำการป้องกันการก่อการจลาจลจากพวกกากเดนของคังอ๋อง แล้วไหนเลยจะมีกำลังพลเพียงพอมาจัดการกับเรื่องนี้ ดังนั้นจึงได้แต่สั่งให้ทำการค้นหาเฉพาะบริเวณที่พอจะค้นหาได้เท่านั้น ก่อนจะทำการปิดเขาห้ามคนเข้าออก จนนำมาสู่การค้นหาและพบซากกระดูกในยามนี้นั่นเอง กระดูกมีทั้งเล็กและผู้ใหญ่ รวมทั้งกระดูกสัตว์ที่มากินซากศพและถูกพิษ บาดแผลภายนอกของคนพวกนี้ไม่แน่ว่าอาจเกิดจากสัตว์ เหตุการณ์ผ่านผันมานานหลายปีแล้ว ซากศพถูกสัตว์กัดกินไปหมดสิ้นนานแล้ว ด้านบนเต็มไปด้วยร่องรอยจำนวนนับไม่ถ้วน ต่อให้เป็นแพทย์นิติเวชที่มีประสบการณ์ก็ยังต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ถึงจะสามารถระบุถึงที่มาที่ไปของบาดแผลพวกนี้ได้ ในที่สุดขบวนเดินทางของพวกเฉินอิ๋งก็ถึงจวนสกุลหลี่เสียที ตอนเกิดเรื่องขึ้นในคืนนั้น เฉินจวิ้นกับหลี่เก๋อล้วนแต่ปลอดภัยดี ทางหลี่เหิงมียอดฝีมืออยู่ในมือหลายคน ผนวกกับกองหนุนของเผยซู่ ทำให้สถานการณ์ในคืนนั้นแม้จะชวนตื่นตระหนกแต่ก็ไม่มีอันตรายอันใด นอกจากนี้ที่ขบวนรถเคลื่อนกลับมาช้าเช่นนั้นอีกทั้งยังรั้งรออยู่ที่อำเภอหวงอีกเป็นนาน นั่นก็ด้วยเพราะพวกเขาต้องการรอฟังข่าวจากเจาหย่วน ไม่ผิดจากที่เฉินอิ๋งคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เกิดเหตุไม่สงบขึ้นที่อำเภอเจาหย่วนจริงๆ ตอนพวกนางถูกล้อมอยู่ในอีเซี่ยนเทียน ที่อำเภอเจาหย่วนก็มีคนร้ายกลุ่มหนึ่งหมายออกจากเมืองตอนเที่ยงคืน คนร้ายพวกนี้ใจกล้ายิ่ง ถึงกับบุกโจมตีที่ว่าการอำเภอ โชคดีที่นายอำเภอเจาหย่วนได้รับการคุ้มครองจากกองกำลังสกุลเผยทำให้สามารถหลบหนีออกมาได้ ทว่าคนในครอบครัวของเขากลับโชคร้ายถูกจับเป็นตัวประกัน บีบบังคับให้นายอำเภอเปิดประตูเมือง สุดท้ายบิดามารดารวมถึงบุตรชายบุตรสาวของนายอำเภอต่างถูกสังหารหมดสิ้น ทว่ากองกำลังสกุลเผยองอาจห้าวหาญ ใช้ความมืดโจมตีเล่นงานอีกฝ่ายจนแตกพ่าย แต่ถึงกระนั้นสถานการณ์ของอำเภอเจาหย่วนในคืนนั้นก็ยังตกอยู่ในภาวะวิกฤต โจรถ่อยพวกนั้นเพราะถูกบีบจนอับจนหนทางจึงลงมือสังหารชาวบ้านไปทั่ว กว่าจะปราบปรามได้สำเร็จราบคาบก็รุ่งเช้าของอีกวัน ตอนเกิดเหตุจลาจลที่เจาหย่วน สกุลเหอ สกุลหลี่กับสกุลหานที่อยู่ที่เผิงไหลก็ถูกโจรจากหลายเส้นทางบุกโจมตีเช่นกัน โชคดีที่หลี่หังคาดเดาเหตุการณ์ได้อยู่ก่อนหน้า จึงส่งทุกคนไปที่นอกเมืองก่อน หลังจากนั้นก็ให้บ่าวไพร่สกุลเหอสกุลหานที่ยังเหลือร่วมมือรักษาฐานที่มั่นกันอย่างสุดกำลัง สุดท้ายก็รอจนกองกำลังสกุลเผยมาถึง
เฉินอิ๋งตัดสินใจจะเริ่มทำการค้ากับกัวหว่าน เพราะนางต้องการเงินมากๆ และก็ต้องการสนับทางบ้านกัวหว่านด้วย จึงเสนอน้ำมันหอมระเหยที่ยังไม่มีใช้ในยุคโบราณให้อีกฝ่ายพร้อมขายสูตรไปให้อีกฝ่ายทำขายและแบ่งกำไร วันหนึ่งเฉินอิ๋งกับหลี่ซีเดินทางไปเยี่ยมเยียนเหอสุยที่เรือนสกุลเหอ ทว่าที่เรือนดันเกิดเรื่องขึ้นพอดี ท่านปู่ของเหอสุยถูกฆ่าตาย เฉินอิ๋งจึงใช้ป้ายทองเสิ่นทั่นเข้าไปเก็บหลักฐานต่างๆ ก่อนเผยซู่จะมาช่วย นางค่อยๆ คิดจนในที่สุดก็ไขปริศนาต่างๆ ได้กระจ่างและพบตัวคนร้ายในที่สุด จู่ๆ ทางฮูหยินผู้เฒ่าสวี่ก็ส่งเฉินเซียงกับเฉินหานมาที่นี่อย่างมีความเป็นมาไม่ชัดเจน ตอนแรกทั้งสองก็ดูเข้ากับใครไม่ได้ เฉินหานก็ปากคอเลาะร้ายเช่นเดิม จนอยู่ๆ ไปเฉินอิ๋งก็รู้สึกอีกฝ่ายน่ารักขึ้นมาอย่างประหลาด ด้านเฉินเซียงยามนี้เรียกได้ว่าพบวิธีกำราบเฉินหานแล้ว หนำซ้ำยังใช้มันได้ไม่มีพลาด เชื่อว่าผู้เป็นพี่สาวอย่างนางในที่สุดก็หาเกียรติภูมิเล็กน้อยของตนพบแล้ว (ติดตามต่อในเล่มถัดไป)

รีวิว


5.0
5 (1)
  • 5
    100 %
  • 4
    0%
  • 3
    0%
  • 2
    0%
  • 1
    0%
เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว