รายละเอียด : อรรคษฎีหลอกลวง
เขาคือคนขุดหลุมพราง เขาคือคนที่จงใจหลอกลวง แต่เขาก็คือคนที่พลาดพลั้งติดบ่วงรักนั้นเสียเอง และเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อขอโอกาสอีกครั้ง...
" เรื่องเป็นไงมาไงวะ ได้ยินว่ามึงเป็นคนเซ็นเอกสารด้วยตัวเอง มีอะไรจะบอกกูไหม? "
อรรคษฎียืนกอดอกนิ่ง ใบหน้าไม่ปะปนความรู้สึก "เขาเป็นน้องชายกู"
"ฮะ?น้องชายมึง?"
"ไอ้เด็กแว่นเอ๋อ ๆ คนนั้นไง คนที่เคยมาบ้านกูบ่อยๆ ตอนเด็ก"
ภูวนาทนึกอยู่สักพักจึงคิดออก "อ๋อ คนที่มึงชอบแกล้งเขาอะนะ ที่มึงโดนลุงจอมโหดฟาดตูดก็เพราะเด็กคนนี้ไม่ใช่หรือ”
พูดพลางจะหัวเราะเมื่อนึกถึงอดีตในวัยเด็ก แต่อรรคษฎีไม่ขำด้วยสักนิด
“เด็กกาฝาก”
“ได้ยินว่าพ่อแม่มึงรับเลี้ยงตั้งแต่พ่อแม่แท้ๆ ของเขาตาย ไม่คิดว่าจะโตขนาดนี้แล้ว หน้าตาน่ารักเชียว"
"แม่ง ตัวซวยฉิบหาย เข้ามาในชีวิตกูทีไรมีแต่ปัญหา"
"เอาน่า มึงก็อย่าไปโทษน้องมันเลย อย่างน้อยมึงก็ไม่ได้มีคดีขับรถชนคนตายนะเว้ย ถ้าเป็นน้องชายบุญธรรมก็ยิ่งพอเจรจาได้ง่าย ไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลให้เรื่องราวใหญ่โตอีก ถ้าเกิดเขาฟื้นขึ้นมามึงก็แสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจก็แล้วกัน"
อรรคษฎีไม่มีทางเลือกอื่นจนใจต้องให้เป็นไปตามนั้น สีหน้ายังเคร่งเครียดบอกบุญไม่รับ จนภูวนาทต้องถามต่อ “แล้วมึงเอาไง?”
“อะไรเอาไง?”
“เอ๊า ก็มึงขับรถชนเขา แถมยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นญาติเพียงคนเดียวของเขาในตอนนี้อีก อย่าบอกนะว่ามึงคิดจะไม่ดูดำดูดีอะไรอีกเลย ทำหมางเมินแบบเดิมๆ ไม่ได้แล้วนะเว้ย”
อรรคษฎีไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรเหมือนกัน ที่แน่ๆ ตอนนี้ชักจะปัดความรับผิดชอบได้ยากแล้ว เพราะเอกสารที่เขาต้องการก็ยังไม่ได้ลายเซ็นของอีกฝ่ายสักแผ่น