รายละเอียด : บุหลันจันทร์เจ้า
"แม่บุหลัน ตื่นได้แล้ว ไปกับพี่ พี่จะพาเจ้าไปชมความงามรอบๆ" เสียงของชายผู้หนึ่งที่นั่งอยู่บนหลังม้าท่าทีสง่างามเครื่องแต่งกายอยู่ในชุดโจงกระเบนสีน้ำตาลเข้มลายไทย ท่อนบนเปลือยเปล่าเผยให้เห็นแผงอกกว้างของชายชาตรี ผิวสีเข้มแต่ดูสะอาดตา
ม้าสีขาวนวลที่มีรัศมีสว่างจ้าราวกับแสงไฟช่างงดงามสมกับเป็นอาชาของชายชาติทหาร มันรู้ความตามนายสั่งทุกประการไม่ว่าจะหยุดจะเดินหรือจะวิ่ง รู้แม้กระทั่งว่าเมื่อนายหญิงผู้เป็นที่รักของนายตนอยู่บนหลังเมื่อไรมันจะค่อยๆเหยาะเท้าวิ่งแบบนิ่มนวล
หญิงสาวสะดุ้งตื่นในตอนเช้ามืดเฝ้าทบทวนความฝันว่าเขาเป็นใครกันนะ หล่อเหลาจนเหมือนไม่มีอยู่จริง หน้าคมเข้ม หุ่นสันทัดเหมือนชายไทยโบราณ
“ดอกจันทร์กระพ้อ กลิ่นของเจ้าช่างเย้ายวนหอมมาแต่ไกลโดยเฉพาะเพลากลางคืน ทำให้ใจของพี่ถวิลหาเจ้ามิเคยคลาย…”เสียงหนาทุ้มแต่นุ่มลึกกระซิบกระซาบที่ข้างหูเธอเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่เธอจะรู้สึกตัวด้วยเสียงของนาฬิกาปลุก
เธอฝันถึงชายปริศนาคนเดิมซ้ำๆครั้งแล้วครั้งเล่าแต่หาคำตอบไม่ได้ว่าเขาคือใคร แต่เขาทำให้เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นใจได้ไม่น้อยถึงแม้จะเป็นแค่เพียงความฝันก็ตาม….บางทีเธอก็แอบเผลอคิดว่าอยากหลับใหลไปแบบนี้ให้นานเท่านานเพื่อที่จะได้อยู่กับบุรุษผู้นั้นตลอดรัตติกาล
จวบจนอายุย่างเข้า 25 ปีเต็มเธอมักจะเจอเหตุการณ์ร้ายๆแปลกๆเสมอแต่ก็รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ทุกครั้ง แต่เธอคิดไปเองว่าคงเป็นเพราะอายุเธอเข้าเบญจเพศ
และความรักของเธอไม่เคยจะสมหวังไม่ว่าคราใดมีอันต้องร้างลา
ใครกันนะที่ทำให้เธอต้องพบเจอชะตากรรมนี้และใครกันที่จะมาปลดบ่วงพันธนาการแห่งหนี้กรรมเก่าของชาติภพที่มันได้ล่วงเลยกาลเวลามานานโขแล้วเช่นนี้…….
*หมายเหตุ จากผู้เขียน
นิยายเรื่องนี้ทั้งชื่อตัวละครและเหตุการณ์สถานที่เป็นเพียงการสมมุติขึ้นมาเท่านั้นมิได้มีเจตนาจะพาดพิงผู้ใดหากชื่อ นามสกุลของตัวละคร เหตุการณ์ สถานที่ บังเอิญไปพ้องกับผู้ใดผู้เขียนขออภัยมาณที่นี่ด้วยค่ะ
**เหตุการณ์ในเรื่องช่วงเวลาในอดีตของนิยายไม่ได้อิงประวัติศาสตร์ยุคใด รัชสมัยใด ทั้งสิ้น ทุกเหตุการณ์ล้วนแล้วแต่เป็นการสมมุติขึ้นมาตามจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น