ตัวเลือกสินค้า

พ.นวลจันทร์

เรียงตาม แนะนำ

  • เรียงตาม แนะนำ
  • เรียงตาม ราคาขาย
  • เรียงตาม วันที่ขาย
  • เรียงตาม ชื่อสินค้า
  • เรียงตาม ขายดี
  • เรียงตาม ให้คะแนน

แสดง 1 ถึง 10 จาก 10 รายการ

พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ นามเดิม นวลจันทร์ เสมาเพชร เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2514 ที่อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ เป็นบุตรของนายสุทธนูและนางคำบง เสมาเพชร ซึ่งต่อมาได้นำพาท่านและพี่ชายย้ายไปตั้งถิ่นฐานอยู่ที่หมู่บ้านศรีโพนแท่น ตำบทนาซ่าว อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ท่านเป็นเด็กหัวดีเรียนหนังสือเก่ง มีความสามารถรอบด้านแต่ด้วยฐานะอันยากจนจึงต้องบวชเณรเพื่อให้ได้เรียนหนังสือมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 หลังจากเรียนนักธรรมชั้นตรีที่วัดใกล้บ้านแล้ว ท่านก็เข้ามาศึกษานักธรรมขั้นโทและนักธรรมชั้นเอกต่อที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพฯ และเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาที่วัดอินทรวิหาร กระทั่งสึกออกมาในปี พ.ศ.2533 เมื่อผ่านการเกณฑ์ทหารและได้รับการบรรจุเข้าทำงานเป็นฝ่ายตรวจสอบคุณภาพ (QC) ที่บริษัทในเครือโอสถสภา ท่านก็ทำงานเรื่อยมาจนอายุได้ 24 ปี แม้งานจะดีเจ้านายรักใคร่ เพื่อนฝูงมากมาย แต่เพราะเริ่มเห็นความไม่มีแก่นสารของชีวิต ประกอบกับอุปนิสัยเดิมที่เคยอยู่วัดวามาก่อน ท่านจึงตัดสินใจกลับเข้าสู่ร่มกาสาวพัตสตร์อีกครั้ง ด้วยการอุปสมบทอีกครั้ง ด้วยการอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เมื่อปี พ.ศ.2539 ณ วัดกล้าชอุ้ม ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งตั้งแต่นั้นมาก็ทำให้จิตใจของท่านมีความสุข สงบ เย็น หล่อเลี้ยงมาโดยตลอด ชีวิตในแดนธรรมของท่านได้พบกับจุดเปลี่ยนในปี พ.ศ.2541 เมื่อศูนย์วิปัสสนายุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์ 2 (ปทุมธานี) จัดโครงการ "ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชา" ขึ้น เพื่อเปิดรับพระสงฆ์ตัวแทนจากแต่ละจังหวัดให้เข้ามาปฏิบัติธรรมอย่างเข้มข้น นั่นจึงเป็นโอกาสให้ท่าน ได้เข้ารับการฝึกอบรมวิปัสสนากรรมฐาน โดยมีพระอาจารย์มหาเหล็ก จันทสีโลเป็นพระวิปัสสนาจารย์ อีกทั้งท่านยังได้เฝ้าติดตามและเป็นผู้ช่วยของพระอาจารย์มหาเหล็กมาเนิ่นนานหลายปี จนในที่สุดก็ได้เป็นพระวิปัสสนาจารย์ผู้มีคอร์สปฏิบัติธรรมเป็นของตัวเอง ภายใต้ชื่อหลักสูตร "เพียงแค่รุ้" ด้วยวิธีการสอนสติปัฏฐาน 4 อย่างเรียบง่าย เน้นการนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงไว้ซึ่งถ้อยคำแปลกหูชวนสะกิดใจ และกิจกรรมหลากหลายที่คาดเดาอะไรไม่ได้เลย ส่งผลให้มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาปฏิบัตืในหลักสูตร "เพียงแค่รู้" กันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเมื่อจบคอร์สแล้วก็มักจะมีชายหนุ่มปรี่เข้ามาขอบวชเรียนกันในทันทีเสมอๆ ไม่เพียงเท่านั้น ท่านยังรับเป็นพระวิปัสสนาจารย์ให้แก่โครงการฝึกอบรมพระสงฆ์จำพรรษา ณ ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯ เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์ 2 รวมทั้งที่วัดวิวัฏฏะ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อีกหลายครา ซึ่งเป็นโครงการที่ผลิตบุคคลกรรุ่นใหม่ ให้แก่วงการพระพุทธศาสนาไทยมาแล้วมากมาย อาทิเช่น อาจารย์ประเสริฐ อุท้ยเฉลิม ปัจจุบันท่านพำนักอยู่ที่วัดวิวัฏฏะ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และพำนักเป็นครั้งคราวที่ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯ และเป็นผู้สอนธรรมนำปฏิบัติให้แก่หน่วยงานองค์กร และธรรมสถานต่างๆ 

เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว